หนึ่งในประสบการณ์การแสดงที่จะเล่าไปชั่วลูกชั่วหลาน กับการรับหน้าที่ “เอ็กซ์ตร้า ห้าร้อย” ในภาพยนตร์ “เพื่อนสนิท”
ตอนที่เรียนอยู่ปี 3 รุ่นน้องคณะได้มาชวญให้ไปเต้นในฉากหนึ่งในภาพยนตร์ ด้วยทักษะการเต้นที่สูงส่ง…หรา เมื่อน้องกล้าชวน พี่ก็กล้าไป หลังจากซักซ้อมกันจนได้ท่าเรียบร้อย วันถ่ายทำก็มาถึง
พวกเราเดินทางสู่เขาใหญ่ (ใช่มั้ยนะ) ไปถึงราวๆบ่ายสองบ่ายสาม วู้ววว ท้องทุ่งกว้างใหญ่ อากาศเย็นกำลังดี เวทีใหญ่โต โอ้ววว ตื่นเต้นมาก พวกเราทานข้าว เตรียมตัวแต่งหน้าทำผม รอให้พระอาทิตย์ตกดิน เพราะฉากนี้เป็นฉากกลางคืน
ตอนนั้นไม่ได้รู้เส้นเรื่องอะไรมาก รู้แค่ว่าเป็นฉากที่พระเอกนางเอกมางานคอนเสิร์ต เราก็เป็นแดนเซอร์อยู่บนเวที เต้นแรงๆ แต่หน้าตาย จบ
พระอาทิตย์ตกดิน ไฟส่องสว่าง ได้เวลาที่พวกเราจะวาดลวดลายกันแล้ว ทุกคนพร้อมบนเวที พร้อม แอคชั่น! ทันทีที่เพลงมา พวกเราก็เต้นตายถวายชีวิตอย่างพร้อมเพียง สนุกสนาน กล้องก็เก็บภาพเราทั้งมุมไกล มุมใกล้ เต้นไปประมาณสี่ห้ารอบเห็นจะได้ คัท! โอเค ผ่าน
ก้องโล่งใจที่งานผ่านไปได้ด้วยดี แต่ ความสนุกที่แท้จริงกำลังจะตามมาต่อจากนี้
คือตอนนั้นก็ยังใสๆไม่รู้เรื่องราวการถ่ายทำอะไรนัก จึงเข้าใจไปว่าเสร็จแล้ว ทว่าทีมงานยังไม่ได้ถ่ายจุดสำคัญก็คือพระนางที่ต้องเต้นอยู่ข้างล่าง อยู่ท่ามกลางผู้ชม แล้วเห็นพวกเราที่เต้นบนเวทีเป็นฉากหลัง …
เมื่อย้ายกล้องจัดไฟเรียบร้อย เพลงมา พวกเราก็เต้นอีกครั้ง
“ปิดเพลงครับ” เปิดไม่ได้ เพราะเสียงจะเข้าไมค์แล้วจะตีกับบทสนทนาของตัวละครอื่น “ปิดเพลงแต่ขอเต้นพร้อมๆกันนะครับ”
สบตากันปริบๆ น้องที่เป็นคนออกแบบท่าก็นับจังหวะเบาๆให้พอที่เราจะเต้นไปพร้อมๆกันได้
“อย่าให้เวทีมีเสียงครับ” กระทีบเท้าไม่ได้ เพราะเสียงจะเข้าไมค์แล้วจะตีกับบทสนทนาของตัวละครอื่น “อย่าให้เวทีมีเสียง แต่ยังขอเต้นแรงๆนะครับ”
โอ๊ยยยย โจทย์ยากมาก ไม่มีเพลง แต่ต้องเต้นให้พร้อม เต้นแรงๆ แต่อย่าให้เวทีมีเสียง … อย่างไรก็ตามพวกเราก็เต้นต่อไป หึหึ ความท้าทายไม่ได้อยู่แค่นั้น
อากาศที่สบายๆตอนมาถึงยามบ่ายนั้น ตอนนี้ได้อย่างเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอย่างช้าๆ เย็นเตร็กมาก แต่ไม่เป็นไรเพราะชุดเราหนา ชุดเราเป็นเสื้อกล้ามหรือแขนสั้น กางเกงขาสั้น มีกระโปรงที่เป็นผ้าหลายชั้นแต่โปร่งทะลุทะลวง ถุงเท้ายาว สายรุ้งพันคอ และวิกผม ซึ่งทั้งหมดนี้กันความหนาวได้ประหนึ่งใส่เสื้อฮีทเทกของยูนิโคล่ 0.0000000000000000000275 ตัว
ถ่ายไป หยุดไป เพราะต้องมีการปรับแก้ในส่วนของการแสดงด้านล่างเวที ระหว่างรอช่วงปรับนั้น เวทีจะโล่ง เพราะพวกเราจะไปสิงตามหลังตู้แอมป์ หลังลำโพง หลังกลองชุด นั่งกอดกันตัวสั่นเหมือนเด็กน้อยขายไม้ขีดไฟ ลมหนาวและดาวเดือน ยามเมื่อลมพัดหวน หรือลูกศรลมกรด คือมาหมด มาทั้งจากตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ทั้งลมว่าว ลมข้าวเบา ลมบก เดาว่าลมทะเลก็ยังมา คือหนาวสะดึงลึงมาก หนาวไม่ปรึกษาใคร หนาวเหมือนกลัวจะไม่มีหน้าหนาวอีกแล้ว (ซึ่งจริง) ทันทีที่คำว่า “พร้อมครับ” ดังขึ้น พวกเราจะออกมาจากหลุมอย่างกล้าหาญ มาเต้นแรงๆแบบไม่มีเสียงฝีเท้าให้พร้อมทั้งที่ไม่มีดนตรีประกอบ และเมื่อ “คัท” พวกเราก็จะกลับถ้ำของตน
ก้องมองดวงจันทร์ ภาวนาให้ไปให้พ้น! พระอาทิตย์เท่านั้นที่จะช่วยเราได้
แสงเรืองรองเริ่มมาเยือน อีกนิดเดียวแล้ว พวกเรายังคงเต้นต่อไป อีกไม่นานแล้ว แสงจ้าขึ้นทุกที ทุกที สารภาพตรงนี้ว่าก้องจำอะไรในช่วงท้ายไม่ได้เลย รู้สึกตัวอีกทีคือ ก้องม้วนตัวอยู่ในเสื่อของพี่ช่างแต่งหน้าด้านล่างกับน้องคนนึงที่เต้นด้วยกัน แต่มาอยู่ในเสื่อกันนี้ตั้งแต่เมื่อไร และมาได้อย่างไร ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้
และที่บอกว่าเป็น “เอ็กตร้า ห้าร้อย” นั้น ไม่ใช่แค่คำคล้องจ้อง เพราะค่าแสดงเท่านี้จริงๆ แต่ทีมงานคงเห็นถึงความอุตสาหะ หรือเห็นรอยผิวแห้งแตกจากลมหนาว จึงเพิ่มให้ทุกคนเป็น “หกร้อย”
ประสบการณ์ในคืนนั้นพูดจริงๆคือสนุกมาก เป็นการทำงานที่ทรมานกับสภาพอากาศ แต่เพื่อนๆน้องๆที่เต้นด้วยกันดี ประคับประคองกันไป กอดกัน แบ่งพื้นที่หลังแอมป์กัน บิ๊วกันไปกันมาจนงานผ่านไปได้ และถือว่าเป็นความทรงจำที่สวยงามมาก
หนังออกฉาย ก้องเห็นตัวเองไม่กี่วินาที แต่ยิ้มแก้มปริ นั่งรอดูชื่อตัวเองในเครดิต น้ำตาคลอ
ป.ล. เจอซันนี่ครั้งแรกวันนี้นี่เอง


