ในวัยสามสิบต้นๆ นี้ หากแบ่งชีวิตออกเป็นช่วงใหญ่ๆ จะได้สองช่วง คือช่วงที่อยู่ต่างจังหวัดบ้านเกิด และช่วงที่มาอยู่เมืองกรุงใจก็มุ่งแต่อยากจะดัง หยุด ไม่เกี่ยว มาเรียนหนังสือ ย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนขึ้น ม.5 เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2543 และรู้หมือไร่ เอ๊ย รู้หรือไม่ ว่าย้ายออกจากที่นี่เดือนธันวาคมปี 2558 คืออยู่ที่นี่มากว่า 15 ปี …. ที่นี่ ที่ “เพชรบุรีซอย 5”
เพื่อน พี่ น้อง หลายคนเวียนว่ายตายเกิด (อันแปลว่าย้ายมาแล้วย้ายไป) พอรู้ว่ายังอยู่ที่นี่ก็จะตกใจว่า “ยังอยู่อีกรึ” คือก็อยู่ตอนม.ปลายเพราะใกล้โรงเรียน ปริญญาตรีก็อยู่ต่อเพราะใกล้มหาวิทยาลัย ทำงานประจำสองที่ ที่แรกก็อยู่หน้าปากซอย (อีกฝั่ง หูย ซอยเขาเก๋เข้าออกได้หลายทาง) อีกที่ก็อยู่ตึกแถวสยาม พอออกมารับจ้างอิสระก็เลยไม่รู้จะเลือกย้ายไปไหน
สิบห้าปี ความทรงจำเพียบ แต่ ณ จุดนี้อยากจะขอแนะนำว่า อันตัวเราเองที่ดำผุดดำว่ายอยู่ในซอยนี้นั้น เติบโตมากับร้านไหนกันบ้าง นี่ถือว่าเป็นรีวิวร้านอาหารหรอ ไม่เชิงหรอก ซอยนี้อาหารแน่นมาก มีตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอย แต่เราขอนำเสนอร้านที่กินบ่อย กินจริง กินจัง มีดังนี้

เราคือเทพธิดาไส้กรอก 555 ชอบกินมาก ดูพุงสิ เอ๊ะ ดูพอ อย่าแซว ร้านแรกคือคุณป้าไส้กรอกปิ้ง ซื้อประจำจนทั้งลดทั้งแถม สิ่งที่เก๋มากคือผักคุณป้าเยอะมาก แล้วคุณป้าก็ “เอาเท่าไรหยิบเลยลูก” เลิศ

โอ๊ย ดูพุงนาง หลามมาก พอนะ อีกหนึ่งไส้กรอกปิ้งที่ต้องแนะนำ ร้านนี้น้ำจิ้มแซ่บมาก เราเลยขอน้ำจิ้มหวานตลอด ไม่กินเผ็ดค่ะไม่เกินเผ็ด
อย่าคิดว่าเราจะกินเฉพาะไส้กรอกปิ้ง ไส้กรอกทอดเราก็รับ 555 ทีเด็ดร้านนี้คือขายยันดึก ตีหนึ่งตีสองทำงานหน้าคอม (ทำไรล่ะ ดูละครย้อนหลังไง) ทำเสร็จหรือไม่เสร็จก็ตามมันก็หิว หิวก็ต้องหาอะไรกินไม่งั้นนอนไม่หลับหรอก ซื้อทีก็สี่ห้าไม้ มีครั้งนึงมีเงินลงมายี่สิบบาท พี่แกบอก เอาไปก่อนวันหลังค่อยมาจ่ายก็ได้ …. พี่ขา มันเป็นแผนที่หนูอยากจะผอม ….
เดี๋ยวจะหาว่าไม่รักบ้านเกิด ไส้กรอกอิสานเราก็ปลื้ม ร้านนี้ก็แจกก็แถมหนักมาก ปกติซื้อสองไม้ยี่สิบบาท แต่เรายี่สิบบาทมักจะได้สามไม้ เคยซื้อช่วงจะปิดร้าน ยี่สิบบาทได้ห้าไม้ จนมีบางทีต้องบอกคุณพี่ว่า ขอแค่สองไม้พอ กินไม่ไหวค่ะอยู่คนเดียว …. ความจริงคือ สิบก็กินไหวค่ะ แต่มันมากไป หนูอยากผอม ย้ำ อยากผอม
อยากผอมจริงต้องร้านนี้เลย ผลไม้ นี่ ดูผลไม้ อย่าดูพุงขอร้อง ผลไม้ตามฤดูกาล สด สะอาด อิ่ม อร่อย รับวิตามิน
ของคาวต่อนะ 55 ผัดไทย หอยทอด ชอบบรรยากาศร้านนี้คือเป็นร้านเอ้าดอร์ นั่งกินไปก็จะมีคนเดินผ่านแล้วก็ชอบมองว่า “เหย พี่คนนี้กินผัดไทยด้วย” ก็อยากจะบอกมากว่าอร่อย ไม่อร่อยไม่กิน โอเคไหม ^^
ในวันเบาๆ เราก็จัดส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ขนมจีน เบาๆ ร้านพี่เขามีพระคุณนะ เพราะเคยขอข้อมูลไปทำรายงานส่งตอนเรียนปริญญาตรีด้วย
ทุกวันพระเราเจอกัน จริงๆ พี่เขาขายทุกวันนะ แต่เรามาวันพระสม่ำเสมอเพราะวันพระเราไม่กินเนื้อสัตว์ ก็จะมาพึ่งข้าวไข่เจียวที่ร้านนี้ และเมื่อมาตอนเช้าก็จะพบว่าร้านนี้เป็นร้านยอดนิยมเพราะราคาถูก รสชาติดี ปริมาณหนัก หลายครั้งไม่ตรงวันพระเราก็มาใช้บริการ
นี่ เชื่อไหมว่าตอนเรียนม.ปลายกับปริญญาตรีนี่ไม่เคยกินยำแหนมร้านป้าใหญ่เลยนะ คือเป็นคนไม่ชอบรออะไรนานๆ แต่มีคืนนึงเราลงมาตีสองกว่าๆ แล้ววันนั้นไม่มีคนเลย เราก็เลยลองกิน …. แล้วหลังจากวันนั้น เราก็มานั่งรอตลอดเลยแก มันดีงามมาก แล้วป้าใหญ่คุยสนุก มีช่วงที่ป้าใหญ่ไม่สบาย ไม่มาขาย เรานี่กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยแก อยากข้าวทอดมาก 555
แต่ถ้าจะถามว่ากินร้านไหนบ่อยสุด ผลสำรวจตกที่ข้าวมันไก่เจ๊วาอย่างแน่นอน กินมานาน กินแทบทุกวัน กินจนนั่งเลยไม่ต้องสั่ง แถมสั่งธรรมดาได้พิเศษ สั่งพิเศษได้พิเศ้ษพิเศษ เคยมากินพร้อมเพื่อนแล้วเพื่อนตกใจ เพื่อนบอกมากินคนเดียวไม่ได้มากเท่านี้ หุหุ แล้วร้านนี้เปิดสี่ห้าทุ่ม ปิดบ่าย บางวันกินสองรอบเลยก็มี
แต่ถ้าอยากกินอะไรสะอาดจริงๆ ก็ต้องร้านนี้ ซักอบรีดใต้ตึก ม่ายยยยยยยย ไม่กินอะไร ขอไปนอกเหนือจากของกินบ้าง ปกติซักผ้าเอง แต่ถ้ามีอะไรเหลือบ่ากว่าแรง ร้านนี้เป็นที่พึ่งเสมอ แถมมีดูดวงด้วย อุ๊บสสส
ร้านนี้สนับสนุนการศึกษาเรามาตลอด ปากกา ดินสอ ลวดเย็บกระดาษ แฟ้ม ซอง ทั้งตอนเรียนและตอนทำงานมาจากที่นี่เยอะมาก แม้แต่โฟมรองตู้ปลา เราก็ซื้อร้านนี้
แต่ถ้าไปร้านไหนแล้วปิด มาร้านนี้สิ เปิดตลอด (จริงๆ เคยผ่านช่วงปิดมาบ้าง ร้านโล่งเลยตอนนั้น) ร้านนี้เห็นกันแทบทุกวัน เว้นไม่เคยเกินวันเดียว แถมเรามาแบบหัวฟู เสื้อกล้าม ขาสั้น ตลอดๆ เมนูประจำคือ ทายซิ ทายได้ไหม …. เฉลยละนะ ฟุตลองค่ะ แถมกินสองอันนะ ชอบสไปซี่กับชีส
และที่หน้าเซเว่นก็จะมีอีกร้านที่เจอกันทุกวันพระ ร้านนี้เป็นคุณป้ากับลูกชายขายดอกไม้ มาซื้อเดือนละสี่ครั้ง แต่จริงๆ คือเดินผ่านแทบทุกวัน คุณป้าชอบดูเจ็ดวันทันข่าว วันไหนไปจัด พอเจอกันวันรุ่งขึ้นแกก็จะทัก เสียดายที่วันที่ถ่ายรูป ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เราอยู่ซอยนี้ คุณป้าไม่สบาย ไม่มาที่ร้าน แต่ว่า …..
คุณป้าเป็นแฟนรายการตัวจริง จึงรู้เรื่องที่เราซื้อคอนโด ขอเล่าย้อนนิดนึงคือวันสุดท้ายที่เราอยู่ซอยนี้ ก็ตามถ่ายรูปกับร้านต่างๆ แล้วออกไปตั้งแต่บ่ายๆ ไม่เจอร้านดอกไม้เพราะเขายังไม่มาขาย พอทำธุระเสร็จ ขับผ่านหน้าซอย เลยคิดว่าขอเสี่ยงเข้าไปดูอีกที อยากลาคุณป้า
เราไม่เจอคุณป้า แต่ได้มากกว่าการลา คือลูกชายคุณป้าบอกคุณป้ามีของจะให้ โอ๊ย นี่คิดแล้วก็ยังน้ำตาคลอ หวังว่าตอนนี้คุณป้าจะสุขภาพแข็งแรง กลับมาขายดอกไม้ให้ชาวซอยอีกครั้งแล้วนะคะ
ก็ยังมีอีกหลายร้านนะที่เราใช้บริการเป็นประจำ ทั้งร้านเนต (ในวันที่ตึกเนตล่ม) ร้านถ่ายเอกสาร ไอติมรถเข็น สลัดโรล ฯลฯ ขอขอบคุณทุกๆ ร้าน ขอบคุณคุณพี่ คุณป้า ทุกท่านที่ทำอาหารอร่อยๆ มอบบริการดีๆ ราคาไม่แพง ดูแลเรามาตลอดสิบห้าปีที่อยู่ซอยนี้ นี่ไม่รู้จะจบยังไงดี จบมันดื้อๆ เลยละกันว่า
เพชรบุรีซอย 5 ….. ไอ เลิฟ ยู
