จะไปชมละครเวทีสักเรื่องมันจะต้องรู้อะไรถึง 11 ข้อเชียวหรือ
คำตอบคือไม่ต้องรู้เลยสักข้อก็ได้ แต่ถ้ารู้และนำไปปฏิบัติ จะชมละครได้อย่างมีความสุขขึ้น ทันตาเห็น
1. ไปถึงโรงละครก่อนเวลาแสดงอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
ถ้าไม่ใช่คอละครเวทีแล้ว น้อยคนที่จะเดินทางไปโรงละครกันบ่อยๆ จนคำนวณเวลาได้แม่นยำ ยิ่งเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ในกรุงเทพมหานครแล้วนั้น ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางชนิดที่ว่า ไปถึงโรงละครให้ได้ก่อนเวลาแสดงอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เช่น ถ้าละครเริ่มทุ่มตรง คิดว่าใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ใช่หกโมงค่อยออกจากบ้าน แต่ให้ออกตั้งแต่ห้าโมงเย็นไปเลย เพราะเป็นที่รู้กันว่าการจราจรบ้านเรานั้นเป็นอะไรที่ถ้าติดขึ้นมาคือถึงขั้นพัง และไม่ใช่พังธรรมดาแต่เป็น พังพินาศ
ใครที่ใช้การเดินทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพี่วิน รถไฟฟ้า หรือเดิน ก็อาจจะลดเวลาที่เผื่อลงมาจาก 1 ชั่วโมงเป็นสัก 30 นาที เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ เผื่อไว้ก่อนดีกว่า
นอกจากเรื่องของการจราจรแล้ว การเผื่อเวลานี้ยังรวมไปถึง เผื่อหลงทาง เผื่อหาทางเข้าไม่เจอ เผื่อเลยทางเข้าแล้วต้องวนใหม่ เผื่อหาที่จอดรถยาก เผื่อจอดรถเรียบร้อยแต่หาโรงละครไม่เจอ เผื่อต้องไปรับบัตรหน้าโรง เผื่อกินข้าว เผื่อเข้าห้องน้ำ เผื่อ เผื่อ เผื่อ
ส่วนถ้าเผื่อขนาดนี้แล้วยังไปไม่ทันจริงๆ ก็ให้คิดเสียว่าแต้มบุญเรามีไม่พอที่จะชมละครในรอบนั้น
2. วางแผนเรื่องการกินอาหาร
แต่ละคนควรรู้ตัวเองว่าระบบร่างกายของตนเป็นอย่างไร
หิวไม่ได้หิวแล้วจะหงุดหงิด ก็หาอะไรกินให้อิ่มซะ
กินอิ่มเมื่อไรจะง่วง ก็กินแค่รองท้องอย่าให้อิ่มเกินไป
กินปุ๊บจะต้องส่งแฟกซ์ ก็กินล่วงหน้าจากบ้าน ส่งแฟกซ์ให้เรียบร้อยก่อนเข้าโรงละคร
ทั้งนี้เพื่อให้การรับชมละครเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ปวดท้องหิวจนเสียสมาธิ ไม่อิ่มจนหลับ ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำระหว่างการแสดงซึ่งเป็นการรบกวนผู้ชมท่านอื่นด้วย
3. แต่งกายให้เหมาะสมตามกาลเทศะ
หลายคนมีคำถามว่าไปชมละครเวทีต้องใส่สูทผูกไทจัดเดรสไหม เสื้อยืดกางเกงยีนส์เขาจะห้ามเข้าหรือเปล่า
ประเด็นแรกคือต้องดูว่ารอบการแสดงนั้นมีความพิเศษอะไรหรือไม่ เช่น เป็นรอบกาล่าที่ผู้ชมโดยมากจัดหนักจัดเต็ม หรือเป็นรอบพิเศษที่มีการระบุการแต่งกายอย่างชัดเจน ก็ควรแต่งกายให้สอดคล้องกับข้อกำหนดหรือวิธีปฏิบัติของรอบการแสดงนั้นๆ
หากเป็นรอบการแสดงทั่วไป ไม่ได้มีการกำหนดเรื่องการแต่งกาย จะใส่อะไรดี ก็ขอตอบตรงนี้ว่า “ใส่อะไรก็ได้ มีอะไรก็ใส่ๆ ไป” ฟังดูเหมือนรายการทำอาหาร 555 ใส่อะไรก็ได้ในที่นี้คือ เอาตามสะดวกของเราโดยพิจารณาถึงกาลเทศะ ความเหมาะสม คือจะให้บอกว่าต้องขายาวเท่านั้นขาสั้นไม่ได้ เดี๋ยวนี้กางเกงหรือกระโปรงสั้นก็มีที่ทำออกมาดูดีสุภาพ ยีนส์ได้ไหม เสื้อยืดได้ไหม แขนกุดได้ไหม ได้สิทำไมจะไม่ได้ แต่ถ้าหยิบชิ้นไหนมาใส่แล้วเกิดความเอ๊ะในใจว่าคนจะมองไม่ดีไม่เหมาะสมไหม ถ้าใจตัวเองยังเอ๊ะ ก็เปลี่ยนเถิด เราเชื่อว่าทุกคนมีชุดที่ใส่แล้วจะไม่เอ๊ะ
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องคิดคือ สภาพอากาศ โรงละครบางแห่งหนาวมาก นึกว่าไปเที่ยวแดนหิมะ ติดเสื้อคลุม ผ้าคลุมไปสักนิดก็จะดีต่อร่างกาย
อ่อ เหมาะสมตามกาลเทศะ (และอุณหภูมิ) แล้ว อย่าลืมเรื่องความสะอาด ประเภทสวยงามแต่สามปีไม่เคยซัก พกกลิ่นเฉพาะตัวมานี่ก็ไม่ไหว หรือกลับกัน ประโคมน้ำหอมมาทั่วร่างได้กลิ่นตั้งแต่คนข้างๆ ไปจนคนแถวหลังสุด อันนี้ก็ไม่ดี
4. เข้าโรงละครก่อนเวลาแสดงอย่างน้อย 10 นาที
หลายคนถามว่าทำไมต้องเข้าก่อน ก็ในเมื่อมีตั๋วอยู่ในมือแล้ว ตั๋วก็ระบุที่นั่ง ใครจะมาแย่ง รีบทำไม หึหึ
มันเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งที่จู่ๆ ก็มีคนมานั่งที่นั่งของเรา เกิดได้ทั้งการออกตั๋วผิดจริงๆ ทำให้ที่นั่งซ้ำกัน หรือตั๋วถูกแล้วแต่ดูเลขที่นั่งผิดเพราะสับสนระหว่าง I (ไอ) กับ 1 (หนึ่ง) – O (โอ) กับ 0 (ศูนย์)
ไหนใครดูผังที่นั่งก่อนเข้าโรงละครบ้าง มีแน่ แต่ไม่มากหรอก บางโรงง่ายๆ ไล่ตัวอักษรและตัวเลข บางโรงแยกเลขคู่ทางซ้ายเลขคี่ทางขวา บางทีตั๋วเราเบอร์ 8 นับเก้าอี้ตัวที่แปดอ้าวมีคนนั่งแล้ว มองไปอ้าวตัวที่แปดเป็นเบอร์ 15 เพราะแถวนั้นเก้าอี้ตัวแรกคือเบอร์ 8 บางทีที่นั่งอยู่ชั้นสองชั้นสามอยู่ในบ๊อกซ์ก็ต้องเดินต่อไปอีกกว่าจะเจอทางเข้า
ช้ำสุดที่เคยเห็น (คนอื่นโดน) คือเก้าอี้พัง นั่งได้ แต่นั่งแล้วไม่สบาย ละครเป็นชั่วโมงๆ นะจะทนหรอ เปลี่ยนดีกว่า ซึ่งจะเปลี่ยนเองก็ไม่ได้อีกเดี๋ยวไปแย่งที่คนอื่น ต้องให้เจ้าหน้าที่จัดการให้
หรือถ้าใครเก่งฉกาจ เดินเองถึงที่นั่งได้ถูกต้อง ไม่มีใครนั่งผิดให้งง เก้าอี้ก็สมบูรณ์ ให้ถือเสียว่าการเข้าโรงละครก่อนก็เพื่อเตรียมตัว ปรับร่างกายและจิตใจให้สงบ ลืมเรื่องต่างๆ ที่ว้าวุ่นใจ เพื่อจะได้ชมละครให้มีความสุขที่สุด
5. งดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
งดไม่ได้อะ ต้องคุยเรื่องงาน สำคัญมากจริงๆ …. สำคัญมากก็ไม่ต้องดูละคร ไปนั่งแชตเรื่องงานข้างนอก …. ละครก็สำ…. หยุด! อย่ามีข้อแม้ เลือกเดี๋ยวนี้ อะไรสำคัญกว่าก็ไปทำสิ่งนั้น
และคำว่า “งดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด” นี้ ไม่ได้หมายความแค่ “งดใช้เพื่อการสื่อสาร” คืองดโทรฯ งดแชต งดเข้าเวบ เท่านั้น แต่รวมไปถึงการงดใช้งานรูปแบบอื่นๆ ด้วย เช่น ไม่ได้แชตนะแค่ดูเฉยๆ ว่ามีใครส่งอะไรมาหรือเปล่า ไม่ได้! ไม่ได้อะไรเลย แค่หยิบมาดูนาฬิกาเฉยๆ ไม่ได้! โอ๊ย อะไรนักหนา ก็ลดความสว่างจอให้แล้วนะยังจะกวนใครอีกหรอ คืองี้เธอ ถ้ามันสว่างพอที่เธอเห็น คนอื่นเขาก็เห็นได้เหมือนกันนั่นแหละ ไม่ได้!
6. หุบปาก อุ่ย แรงไป ข้อแก้เป็น งดการสนทนา
งดถาม – ก็ดูแล้วไม่เข้าใจอะ ก็ต้องถามเพื่อนสิ – คืองี้นะ บางทีเรื่องเขาอาจจะสร้างปม สร้างคำถามไว้ แล้วไปเฉลยตอนท้าย เธอก็ดูไปก่อน เดี๋ยวก็ได้คำตอบเอง หรือถ้าจะไม่ได้คำตอบจริงๆ ละครจบค่อยเปิดเสวนากับเพื่อนเอา
งดเล่า – ก็ดูมาแล้วมันสนุกมากเลยนะ อยากให้เพื่อนเตรียมตัวว่าจะเจอกับอะไรในฉากต่อไป – เธอ ตอนเธอดูรอบแรกเธอสนุกแบบไหน เธอก็ให้เพื่อนและผู้ชมคนอื่นๆ ได้สนุกแบบนั้นเถิด อย่าเล่าอะไรเลย แต่ถ้าอดไม่ได้จริงๆ ให้นัดกันล่วงหน้าสองวันแล้วเล่าให้จบที่บ้าน เล่าจบแล้วคือจบนะ ไม่ใช่ว่าเวลามานั่งดูจะ “เห็นมะๆ” “นี่ไงๆ ที่เล่าไป” อย่าทำ
งดเดา – ก็มันลุ้น นี่ไม่ได้รู้เรื่องก่อนนะ แค่เดาเฉยๆ – ไงดีล่ะ เดาถูก คนที่ได้ยินก็กร่อยมะ หรือต่อให้เดาผิด ก็รบกวนผู้ชมคนอื่นอยู่ดี ดูละครเนอะ ไม่ใช่ทำข้อสอบ ไม่ต้องตอบ ไม่ต้องทาย ไม่มีคะแนนให้ ไม่ต้องเดา
งดคุยเรื่องอื่น – ก็มันไม่สนุก ก็อยากรู้ว่าจบแล้วจะไปกินอะไร – ก็รอให้ละครจบก่อนไง หรือช่วงพักก็ได้ เลือกจะมาดูแล้วก็ต้องอดทนหน่อย ดูๆ ไปอาจสนุกขึ้น หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ พักครึ่งก็กลับบ้านไปซะ
งดร้องตาม – หากเป็นละครเพลง เพลงไพเราะจับใจ ฟังมากว่า 80 ล้านรอบ ร้องได้แม่นกว่านักแสดงเสียอีก ขอนะ ขออย่างสุดใจ “อย่าร้องขณะชม” นี่คือละครเวที ไม่ใช่คอนเสิร์ต (นอกจากว่าเป็นช่วงการแสดงที่เขาเปิดโอกาสให้คนดูร่วมร้องจริงๆ นั่นเอาเลย เอาให้สุด เอาอีก ดังอีก ดังได้อีก)
7. นั่งตัวตรง เอนตัวสบายๆ ในที่นั่งของตน
ระหว่างชมละคร แนะนำให้นั่งพิงพนัก เอนตัวสบายๆ
บางคนลุ้นไง (หรือเมื่อยก็ไม่รู้) นั่งดูอยู่ก็จะโน้มตัวไปข้างหน้า คือการโน้มตัวไปข้างหน้านี้มันเพิ่มองศาในการบังคนข้างหลัง แถมยังเข้าไปในหางตาคนข้างๆ ยิ่งถ้านั่งชั้นสองที่มีความชันมากๆ การโน้มตัวไปข้างหน้าอาจหมายถึงการบังพื้นที่เวทีไปกว่าครึ่งได้เลยทีเดียว
แล้วก็ไม่ต้องรวมร่าง เข้าใจว่ามากับแฟน จับมือก็พอเนอะ ไม่ต้องยกมือมาโอบ โอบแป๊บนึงเมื่อยก็ยกมือออก หายเมื่อยก็ยกมาโอบใหม่ หรือบางคนถือคติสองหัวดีกว่าหัวเดียว ก็เลยนั่งดูละครแบบหัวติดกัน คือบังไง บัง เข้าใจไหม
8. ระวังเสียงจากกระดาษ ถุงพลาสติก และอื่นๆ
แม้โดยทั่วไปโรงละครในบ้านเราจะไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้า (ที่บรอดเวย์ สามารถนำอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ที่ขาย ณ บาร์ในโรงละครเข้าไปหม่ำไปดูละครไปได้) เราก็อาจมีลูกองลูกอมพอกล้อมแกล้มในปากกันบ้าง ซึ่งการหยิบจับอะไรเหล่านี้มันนำมาซึ่งเสียงทั้งสิ้น เลี่ยงได้ขอให้เลี่ยง เลี่ยงไม่ได้ให้จงทำให้เบาที่สุดและน้อยครั้งที่สุด …. เอาจริงๆ ไม่ทำได้ไหม ขอเถอะ
9. ปฏิบัติตามระเบียบเรื่องการบันทึกภาพและเสียง
ส่วนมากก่อนการแสดงจะมีประกาศอยู่แล้ว หรือไม่ก็แจ้งไว้ที่บัตร กรุณา ได้โปรด พลีส นะขอ ขอร้อง จงปฏิบัติตาม “อย่างเคร่งครัด” เช่น “ห้ามบันทึกภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ห้ามบันทึกเสียง” ชัดเจนว่าห้าม ก็ต้องไม่ทำ / “งดใช้แฟลชในการถ่ายภาพ” แปลว่าถ่ายได้ แต่เช็คโหมดกล้องก่อนว่าปิดแฟลชแล้วนะ (แสงแฟลชเป็นสิ่งที่รบกวนนักแสดงมาก และแฟลชบางคนสว่างวาบบบบบบบบบบไปสามสี่แถวที่นั่ง)
แนะนำว่า ถ้าไม่มีประกาศห้าม ให้ถือซะว่าห้ามถ่ายรูป ห้ามถ่ายวิดีโอ ห้ามอัดเสียง ห้ามทุกอย่าง ดูอย่างเดียว … คิดอย่างนี้ไว้ก่อน เพราะจะถ่าย ก็ต้องหยิบจับอุปกรณ์ ก็เกิดเสียง เกิดการขยับยุกยิก ปิดแฟลชแล้วตัวจอเองก็ยังมีแสงหรือยังมีเสียงชัตเตอร์อยู่ … เชื่อสิว่า นั่งชมละครจริงๆ อย่างมีสมาธิ ได้อรรถรสที่สุดแล้ว
10. พักครึ่งการแสดง จงลุกเดิน หรือไปเข้าห้องน้ำ
ณ วินาทีนั้น เราอาจยังไม่เมื่อยหรือไม่อยากไปห้องน้ำ แต่ใครจะรู้ว่าสองอย่างนี้มันจะมาตอนไหน เพื่อสุขภาพของตนเอง และเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ชมท่านอื่นภายหลัง ช่วงพักครึ่งการแสดงก็ลุกไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ถ้าไม่ปวดจริงๆ มั่นใจ ก็ลุกมายืดเส้นยีดสายสักหน่อย จะช่วยให้การชมละครในครึ่งหลังสบายขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจ อ่อ พอได้ยินเสียงเตือน แนะนำให้รีบกลับที่นั่งทันที ไม่ต้องรอให้เพลงขึ้นหรือรอให้ไฟดับก่อนนะ เข้าที่นั่งก่อนได้เลย
11. ฝากเตือนกันหน่อย
ต้องยอมรับว่ามนุษย์เรามีความหลากหลาย บางอย่างเราอาจไม่คิดว่าทำแล้วจะเป็นการรบกวนผู้ชมท่านอื่น เหมือนกัน บางอย่างคนอื่นเขาก็ทำไปโดยไม่ทันคิดว่าเป็นการรบกวนเรา ฉะนั้น เจออะไรที่กวนตากวนใจ อย่าทนแล้วเก็บกลับบ้านมาระบายในเฟซ ให้ลองบอกเขาดีๆ บอกเขาเบาๆ เชื่อในเชื่อว่าทุกคนยินดีรับฟังและหยุดการกระทำดังกล่าว
ถ้าเป็นการรบกวนจากการผิดมารยาทโดยทั่วไปเลย เช่น การแชต ไม่ว่าจะเป็นจากเพื่อนที่มาด้วยกัน หรือเป็นจากผู้ชมท่านอื่นที่อยู่ข้างเคียง สังเกตแล้วว่าทำนานทำบ่อย แม้เราเองจะเป็นสีทนได้ แต่ขอแนะนำว่าเตือนเขาหน่อย เพราะสิ่งนั้นอาจรบกวนอีกหลายคนที่นั่งไกลออกไปแล้วไม่สามารถลุกหรือตะโกนมาบอกเขาได้
11 ข้อ เหมือนเยอะ แต่จริงๆ เป็นสิ่งที่ผู้ชมโดยมากปฏิบัติกันเป็นปกติอยู่แล้ว รักษาสิทธิ์ของเราพร้อมๆ ไปกับการเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น ใจเขาใจเรา เพียงเท่านี้คุณและทุกคนในโรงก็จะรับชมละครในรอบนั้นด้วยความสบายใจ
(ภาพจากละครเวที Dear Evan Hansen)