จริงๆ แล้วเป็นคนเฉยๆ (ปนมองบนนิดๆ) กับบทความแนว เที่ยวอย่างไรใช้เงินน้อยที่สุด ก็แหม จะไปเที่ยวนะ ไม่ได้แข่งทีวีแชมเปี้ยน ไปให้มีความสุขไม่สนุกกว่าหรอ ทำไมจะต้องไปแบบเขียมๆ จะกินก็ไม่ได้กิน จะนอนก็ไม่ได้นอน (ใครวะคะ เขาก็ได้กินได้นอนกันทั้งนั้นแหละ)
พอถึงคราวตัวเองไปบ้าง ไปไหน ไปนิวยอร์ก ไปทำไม ไปดูละครบรอดเวย์ ….. เป้าหมายชัดเจนมาก ว่าแล้วก็เข้าไปสำรวจราคาตั๋วในหน้าเวบ คุณพระ! เรื่องนึงไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญ ถามว่าแพงไหม ราคามันก็ไม่ได้ต่างจากราคาตั๋วละครเวทีบ้านเราหรอกนะ แต่นี่ ไปทีนึงไม่ได้กะจะดูสองเรื่องไง จะดูเป็นสิบ เอาไงดี
แล้วฟ้าก็ประทานทางสว่างมาให้ เมื่อน้องที่รักแนะนำให้รู้จักกับเวบ http://www.broadwayforbrokepeople.com แปลเป็นไทยอย่างสวยงามว่า บรอดเวย์สำหรับคนถังแตก อย่าอายค่ะอย่าอาย ด้านได้อายอด ในเวบนี้จะมีรายละเอียดของละครเพลงและละครพูดทั้งหมดที่แสดงอยู่ ณ ปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ ความเก๋คือ จะพ่วงด้วยรายละเอียด “ตั๋วถูก”
ตั๋วถูก ที่ว่านี้แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
1. Rush Ticket ตั๋วนี้จะขายวันต่อวันที่โรงละคร โดยจะเปิดขายตามเวลาที่โรงเปิดทำการคือ 10 โมง ยกเว้นวันอาทิตย์โรงจะเปิดทำการเที่ยงตรง แต่ๆ จะมาเอาตั๋วชนิดนี้ ไม่ใช่ว่าโรงเปิด 10 แล้วมา 10 จะได้นะจ๊ะ ขี้หมูขี้หมาก็ควรมาตั้งแต่ 9 สู้หน่อยซื้อความมั่นใจก็สัก 8 เอาให้แน่แม่ต้องปลื้มก็ 7 หรือบางเรื่องฮอตฮิตติดลมบนเคยได้ยินว่ามากันตั้งแต่ตี 5 ไม่ถึงก็จวน ซึ่งทางเรายังนอนคิดทบทวนเรื่องฝันชั้นดีอยู่ที่พักอยู่เลยค่ะ
ซึ่งการมารอตั๋วรัชนีนี้ ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีม ส่วนมากจะมีการส่งตัวแทนมา แล้วเมื่อผ่านไปสักชั่วโมงก็จะมีคนมาเปลี่ยนให้คนแรกได้ไปพัก ไปกินข้าว เข้าห้องน้ำ อย่าลืมว่าหกเจ็ดโมงที่นิวยอร์กนั้น ฉันหนาวววววนะพี่ชาย ยิ่งรอบล่าสุดที่ไปนี่ธันวา-มกรา เย็นเตร็กเจ้าของเดียวกับโทนาฟกันเลยทีเดียว แล้วทางเรา ทางเรา ทางเรา มีทีมไหม คือโดนโหวตออกหมดแม้แต่เมนเทอร์ก็ไม่มี ยืนคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ อาหารก็ติดมากินตอนรอบ้าง แต่บางวันก็ลืมบ้าง ต้องทนยืนหิวโหย ปวดฉี่ หรือแม้แต่ปวดขี้ก็ผ่านมาแล้ว แต่เราต้องทน เราต้องสั่งระบบประสาทพาราซิมพาเททิกของเราให้ดูดน้ำกลับให้ได้ (เชื่อว่าพูดชื่อระบบประสาทไม่ถูกแน่ๆ)
2. Lottery Ticket ตั๋วนี้เป็นการชิงโชค สมัยก่อนในยุคครีเตเชียส ไกลไป! รอบก่อนที่ไปเมื่อปี 2014 ตั๋วนี้จะใช้วิธีว่า ใครอยากดูรอบวันไหน บ่ายๆ วันนั้นก็ไปเขียนชื่อใส่กล่องไว้ นึกภาพประมาณกล่องชิงโชคตามห้างอะ ทางโรงจะมีเวลาบอกว่าจับกี่โมง พอถึงเวลาคนก็จะมายืนลุ้น ได้ก็ดู ไม่ได้ก็จากไปอย่างสงบ
แต่ต่อมาในยุคกลาง แหนะยังจะเล่น! ในครั้งล่าสุดที่ไปเมื่อปี 2016-2017 นี้ เกือบทุกเรื่องเปลี่ยนเป็นการลงชื่อและประกาศผลออนไลน์ ใครได้ก็ให้รีบซื้อรีบจ่ายในหนึ่งชั่วโมงไม่เช่นนั้นถือว่าสละสิทธิ์ แน่นอนว่าก็มีคนลงเยอะขึ้นมาก ได้แล้วซื้อก็มี ได้แล้วไม่ซื้อก็คงมี อย่างทางเราเองวันนึงก็ลงชื่อไปหลายเรื่องอยู่
อนึ่ง ตั๋วถูกทั้งสองแบบนี้ ไม่ได้มีจำนวนกำหนดตายตัวว่าแต่ละวันมีให้กี่ใบ ขึ้นอยู่กับเรื่องและรอบการแสดง หลายครั้งที่ผิดหวัง แต่เราต้องสู้ ทำไมเราจึงยังสู้ เพราะมันคือตั๋วถูกไงคะ ถูกสุดที่ได้มาอยู่ที่ 32 เหรียญเท่านั้น
ไม่มีอะไรที่เราจะได้มาเปล่าๆ ดอก (ติดอีทิพย์มา นี่เขียนวันที่พวกนางคลอดลูกกัน) ข้าเจ้าก็ต้องแลกกับการลุ้นที่นั่ง ไม่รู้ว่าจักดีจักชั่วเยี่ยงใดบ้าง นี่ล่ะ ข้าเจ้าจักมาสาธยายให้ชมกัน ว่าแต่ละเรื่องที่ข้าเจ้าดูนั้น ข้าเจ้าได้ตั๋วชนิดไหน ราคาเท่าไร และที่นั่งเป็นเช่นใด
1. The King and I at Pantages Theatre, December 18th 2016 1PM
เรื่องแรกนี้ฟาดที่ Los Angeles ก่อน ตอนอยู่ LA ไม่ได้คิดว่าจะดูละครเวทีเลย แต่ขับรถไปมาในเมือง (ค่ะ เช่ารถขับ กล้ามากค่ะ สวยๆ ไว้มาเล่าทีหลังนะคะ) เห็นป้ายโฆษณา เลยแบบเออ เอาซะหน่อย ก็ซื้อราคาเต็มเลยค่ะ ไปซื้อหน้าโรงก่อนเล่นเลย ได้มาที่ $92 ที่นั่ง Orchestra X112 บล๊อกกลางด้านหลัง เห็นชัดเจน
หมายเหตุ เวลาเจอว่าที่นั่งอยู่โซน Orchestra หมายถึงอยู่ด้านล่าง ไม่ใช่ชั้นลอย (Mezzanine) ชั้นลอยขึ้นไปอีก (Balcony) หรือ ระเบียงด้านข้าง (Box) ไม่ได้แปลว่า แกๆ ฉันได้นั่งอยู่กับวงออเครสตร้าเว้ย ข้างๆ คือไวโอลิน อีกฝั่งคือคอนดักเตอร์ ม่ายยยย ไม่ใช่ค่า
อีกอย่างคือ โดยมากเลขที่นั่งจะแยกเป็นฝั่งนึงคู่ฝั่งนึงคี่ ฉะนั้นถ้าซื้อตั๋วสองใบแล้วได้เบอร์ 2 กับ 4 ก็ไม่ต้องตกใจว่ามีใครมาคั่นกลางระหว่างเรา มันติดกัน ส่วนที่นั่งโซนกลางบางทีจะใช้เป็นเลขสามหลัก ทั้งนี้รายละเอียดแตกต่างกันไปในแต่ละโรง ซึ่ง เข้าเวบก็มีผัง หน้าโรงก็มีผัง ดูกันนิดนึงจะง่ายต่อการหาที่นั่งค่ะ


2. Hamilton at Richard Rodgers Theatre, December 22nd 2016 7PM
ฟาดตั๋วเรื่องนี้แบบเหงื่อแตกซิกเหงื่อแตกซิกยิ่งกว่าเพลงที่พี่กำปั้นบาซู(ไม่)ได้ร้องไว้ คือดังไง โทนี่มากสุดเลยไง ก็ต้องดูไง และตั๋วหายากมาก คือเรื่องนี้มีตั๋วลอตเตอรี่นะ $10 เองยู แต่คนชิงเป็นหมื่นเป็นแสน เอาชัวร์เอาว่าดูแน่ เลยซื้อล่วงหน้าตั้งแต่อยู่ไทยเลย นั่ง Orchestra Q9 เห็นชัดเจนที่ราคา $417.55 เป็นอันสลบค่ะ


3. Les Liaisons Dangereuses at Booth Theatre, December 24th 2016 2PM
เช้าวันนั้นที่ไปต่อคิว Color Purple แล้วแบบ คุณมาลี! เขาไม่เล่น มิน่าไปเกือบ 8 โมง ได้คิวแรก พอรู้ตัวเนื่องจากมีผู้ใจบุญจากโรงตรงข้ามเดินมาบอก ทางเราก็รีบขวนขวายหาตั๋วของเรื่องอื่น ซึ่งไม่ต้องกังวล โรงมันก็ติดๆ กันหมดนั่นแหละ วิ่งสามสิบวินาทีก็ถึงละ เรื่องนี้ได้ Rush นั่งติดขอบเวที BB4 ที่ $40


4. Matilda at Shubert Theatre, December 24th 2016 8PM
มาทิลนี่ดูไปแล้วทีนึงเมื่อมาครั้งก่อน รอบนี้ขอเก็บความประทับใจส่งท้ายก่อนนางเลิกแสดง ได้ Rush สิคะคุณ ก็วิ่งมาจาก Color Purple นั่นแหละ มาเอาเรื่องนี้ก่อนแล้วถึงไปที่ Les Liaison ได้นั่ง Mezzanine B25 $32 และสำคัญกว่านั้นคือ ระบุชัดเจนว่า Partial View
Partial View แปลตรงตัวคือ เห็นแค่บางส่วนนะคะ แปลง่ายกว่านั้นคือ โดนบังแน่ๆ ค่ะ อะไรบัง ไม่ใช่คนดูนะคะ แต่ที่นั่งมันจะข้างมาก หรือหลังมาก หรืออะไรสักอย่าง (เดี๋ยวจะเจอในเรื่องอื่น) ที่ทำให้มองเห็นเวทีไม่ครบ 100%
มีคนถามเยอะมากว่า Partial View แล้วโอเคไหม สำหรับข้าเจ้า พูดเลยว่าโอ ก่อนดูอาจรู้สึกบ้าง แต่ตอนดูเราจะเพลิดเพลินจนลืมไปเลยว่าเห็นไม่ครบ (หราาาาาา เดี๋ยวเจอในเรื่องอื่น)


5. Something Rotten at ST. James Theatre, December 25th 2016 7PM
เช้านี้ก็ยังไปต่อคิว Color Purple และได้เจอความจริงว่าเออนางฮอตจริง ตั๋ว Rush หมดต่อหน้าต่อตา เลยวิ่งมาอีกโรง ได้ Rush เช่นกัน นั่ง Mezzanine B29 Partial View ซึ่ง พอเข้าโรงไปมัน Partial มากๆ ประกอบกับว่าคนดูไม่เต็ม ก่อนการแสดงจะเริ่มก็เลยขยับตัวเองไปนั่ง E27 มุมดีกว่ากันเยอะเลย



6. Fiddler on the Roof at Broadway Theatre, December 26th 2016 3PM
เรื่องตั๋ว Rush (ในเรื่องที่ไม่ฮิตแรงแบบป้าม่วง) ขอให้ไว้ใจเรา ได้นั่งติดขอบเวทีอีกครั้ง D14 $37 เห็นเข้าไปในตาถึงเรตินาและโคนรับสีของคุณพ่อเรื่องนี้กันทีเดียว


7. The Great Comet at Imperial Theatre, December 30th 2016 2PM
Rush M26 $39 พอเข้าไปแล้วแบบ โห อยากได้ที่นั่งบนเวทีจังเลย ความเก๋ของโรงนี้คือมีที่นั่งบนเวที มีเวทีตรงที่นั่งคนดูด้านล่าง มีที่นั่งแบบบาร์ แถมยังมีโต๊ะวางโคมไฟ เออ สุด


8. In Transit at Circle in the Square, January 3rd 2017 7PM
เรื่องนี้ไม่มี Rush (เศร้าละ) ลง Lottery ไปก็ไม่ได้ แต่สุดท้ายตัดสินใจ ยังไงก็ดูวันนี้ เช็คเวบ $89 โอเค ยอม เดินไปซื้อหน้าโรง อุ๊ย ได้ $69 อะ ได้ยินแว่วๆ ว่าเป็นตั๋วที่คนที่ถูกลอตเตอรี่ไม่มารับ เออดีจัง ที่นั่ง F111 เรื่องนี้จัดที่นั่งแบบครึ่งวงรี เก๋ไปอีกแบบ


9. Beautiful The Carole King at Stephen Sondheim Theatre, January 4th 2017 2PM
ตั๋ว Rush มาอีกแล้ว M13 $40 โรงนี้ความเก๋คือเป็นโรงใหญ่ที่แบบเข้าไปถึงเจอชั้นลอยก่อนจ้ะ เรานั่ง Orchestra ก็ต้องเดินลงไปใต้ดิน


10. The Color Purple at Jacobs Theatre, January 4th 2017 8PM
หลังจากไปรอ Rush มาสี่รอบ (นับทั้งที่ไปถูกวันแต่หมดก่อน รวมถึงวันที่เขาไม่แสดงด้วย โอ๊ย อาย) มาวันที่ห้าที่มารอ ตั๋ว $39 ก็ยังหมดก่อนหน้าอยู่ดี แต่ไม่รอแล้วโว้ยยยย ดูวันนี้แหละโว้ยยยยยย ก็เลยได้แถวหลังสุดของ Orchestra R105 มาที่ $59 ซึ่ง Partial View
ทางเราก็งงเด้ ไปดูผังที่นั่งของโรงก็เห็นว่านี่ ตรงนี้คือแถวหลังสุดแบบตรงกลางนะ อะไรจะบังหรอ อ๋อ คงเป็นหลังคาชั้นลอยบังมั้ง ไม่เป็นไรๆ (และนี่คือ อะไรสักอย่างที่บอกไว้ใน Matilda)
ที่ไหนได้ สองแถวหลังสุดตรงกลางนางถอดที่นั่งออกทำเป็นคอนโทรลจ้ะ ก็สวยๆ จ้ะ นั่งพิงคอนโทรลได้เลยจ้ะ
และพอมานั่งหลังสุดแบบนี้ ก็เลยได้สังเกตที่นั่ง ไม่สิ ต้องเรียกที่ยืน ตั๋วถูกอีกแบบก็คือ Standing Room ซึ่ง ไม่มีห้องเนอะ Room ไม่ได้หมายถึงห้อง แต่หมายที่ช่อง/space ก็คือยืนดูหลังแถวหลังสุดอีกที แต่ๆ ไม่ใช่มายืนมั่วซั่วนะ ทุกคนมีเบอร์ชัดเจน



11. Falsetto at Walter Kerr Theatre January 5th 2017 7PM
No Rush มีแต่ Lot และชิงไม่ได้ ซื้อเอาค่ะ ว้ายเก๋ๆ ได้ที่นั่งใน Box ซึ่งสมัยเด็กเรารู้สึกว่ามันสวยเก๋มาก ต้องรวยสุดถึงจะได้นั่งแบบนี้ ที่ไหนได้ มันข้างแบบค้างงงงงข้างเลยค่ะ ซื้อมาที่ $89 BoxA1 Partial View แต่พอเข้าโรง มีสองแม่ลูกได้ 2 กับ 3 นางเลยขอนั่ง 1-2 ส่วนเรามานั่ง 3 แทน ซึ่งดีกว่าแหละ มุมมันจะดีกว่าประมาณ 5%
(และนี่คือ อะไรสักอย่างที่บอกไว้ใน Matilda อันที่สอง) มีฉากนึงจ้า นางเล่นลึกฝั่งเรา ก็คือไม่เห็นทั้งฉากเลยจ้า เป็นฉากที่สองพระเอก ย้ำ สองพระเอกร้องเพลงรักหวานฉ่ำกันบนเตียงจ้า โน้มตัวสุดก็เห็นแค่ปลายตีน เอ๊ย ปลายเตียง หลับตาฟังเพลงวนไปค่า


12. School of Rock at Winter Garden, January 7th 2017 8PM
Rush สิ Rush D19 $39 เป็นชั้นลอยที่โรงละครโอบอุ้มมาก คือโค้งมาก ทางเรานั่งซ้ายสุด ผลคือ Partial View มาก มากๆ มากในมาก มากที่สุด ถามว่าเห็นอะไรมากกว่ากันระหว่างเวทีกับคนดูที่นั่งขวาสุดฝั่งตรงข้าม …. ถ้านักแสดงถอยหลังเข้าไปสักห้าเมตร จบละ บายยยยยย



13. Waitress at Brooks Atkinson Theatre, January 8th 2017 3PM
บางเรื่องที่เขาว่าดี ไม่มี Rush ไม่มี Lot เราก็ต้องสู้เนอะ $169 A114 เออดี ก็หน้าดี ชัดดี แถมพอละครดีด้วย ถูกจริต Girl Power อีก ก็ครบถ้วน คุ้มค่าตั๋วมาก


14. Dear Evan Hansen at Music Box Theatre, January 10th 2017 7PM
นี่ก็อีกเรื่องที่ไม่มี Rush (มี Rush แต่แบบ Standing) เอาค่ะ เขาว่าดี ซื้อ $169 D111 ขอบอกว่าเกือบไม่ได้ดู เพราะชะล่าใจมาก ไปซื้อเอาวันจะกลับ ตั๋วหมดจ้า นี่ยืนรอตอนห้าโมงเย็น มีคนจองแล้วยกเลิก เลยได้ดู แล้วแบบ โอ๊ย ดีมาก คู่ควรมาก เธอต้องได้โทนี่นะ เอาใจช่วยเธอนะ


15. A Bronx Tale at Longacre Theatre, January 11th 2017 2PM
วันสุดท้ายของทริป เราก็ได้ Rush D10 ที่ $39 มีปั๊มว่า Partial View ก็ปกติ ชินแล้ว แต่มีเพิ่มอีกคำจ้ะ Obstructed View เลยลุ้นมาก ว่าดูไปจะมีอะไรมาขัดมาขวางไหม 555 สุดท้ายก็นั่นล่ะ ตามประสา Partial View ดังเรื่องอื่นๆ มีลำโพงมาบังเพิ่มนิดหน่อย ทนไปทนไป


16. The Great Comet at Imperial Theatre, January 11th 2017 8PM
เดี๋ยวๆ ไม่ได้เดจาวูกันนะ คือรอบก่อนได้ดู Umderstudy (นักแสดงแทน) เลยอยากขอดูตัวจริงเสียหน่อย เลยมาซ้ำ ก็ได้ Rush เช่นเดิม J24 $39 ถามว่าต่างจากเดิมที่นั่ง M26 ไหม อย่างไร 555


แถมอีกนิดกับแผนที่แสดงโรงละครต่างๆ ให้เห็นความฟินว่าใครรักละครเวที ไปเดินแถวนี้ มันคือฝันที่เป็นจริง จริงๆ
![]()
เบ็ดเสร็จดูละครไป 15 เรื่อง 16 รอบ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 50,000 บาท ตกเรื่องละ 3,125 ก็ถือว่าโออยู่นะ ก่อนมาตั้งใจว่าจะดูสัก 30 แต่ๆ คุณคะ 16 นี่ก็แน่นจนจะไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นละ รออีกสักสามสี่ปี 2020 ว่ากันใหม่นะจ๊ะ Broadway
เรื่องราวใน New York รวมถึง Los Angeles ยังมีอีกเยอะ แต่จะเขียนเมื่อไรนั้น โปรดติดตามไปเรื่อยๆ เพราะนี่ต้นๆ เขียนตอนเจ้านางคลอดลูก แต่วันนี้มาเขียนเสร็จเอาวันฝรั่งบุกเมืองทิพย์แล้วเจ้าค่ะ
