Paris Day 1: A Neighbourhood Tour

Day 1

ผละจากอ้อมแขนที่ช่วยยกกระเป๋าของโชเฟอร์ลีมูซีน คุณแก้วก็กดรหัสประตูที่เจ้าของห้องพักให้ไว้ xxxxxx ติ๊ด เปิดประตูเข้าไปก็เจอโถง เดินเข้าไปมีลิฟต์อยู่ขวามือ มีปุ่มเดียวใสๆ กดยังไงก็ถูก แต่กดแล้วไม่แน่ใจว่าถูกไหมเพราะ ครึกกกกกกกกก กังกัง ครึกกกกกกกก กังกัง

นี่คือสัทพจน์เสียงลิฟต์ค่ะ น่ากลัวมาก

ครั้งแรกนี้คุณแก้วก็ไม่รู้ว่าเราจะดึงประตูลิฟต์เมื่อไรดี คือประตูมันมีที่ดึงอะ ไม่รู้ว่าลิฟต์ลงมาถึงหรือยัง ครึกกกกกก กังกัง อะลองดึงดู ดึงไม่ออก ครึกกกกกก กังกัง สักพักเสียงเงียบ น่าจจะถึงละ เปิดเนอะ

(ภาพถ่ายจากหน้าห้อง ออกจากลิฟต์แล้วเลี้ยวขวาคือห้อง มองย้อนไปอีกทางคงเป็นเจ้าของป้ายที่แปะในลิฟต์ ความเก๋คือพรมแดงที่ปูประหนึ่งเป็นเวทีอะคาเดมี่แฟนเทเชีย)

ลิฟต์ตึกนี้ก็มีขนาดประมาณ 1×0.8 เมตร ป้ายกำกับบอกว่าจุได้ 3 คน โอ๊ย กลัวใจมาก กลัวว่าขึ้นคนเดียวแล้วจะร้อง ถึงชั้นบน ประตูด้านในลิฟต์เลื่อนไปข้างๆ มีประตูอีกบานที่คุณแก้วต้องผละออกไปเอง ประตูนั้นมีป้ายแปะว่า “ตึกนี้ห้าม Airbnb” เอาล้าวววววววว คุณแก้วออกจากลิฟต์หันไปก็เจอห้องพัก ก๊อกๆๆ คุณอลิสาเจ้าของห้องมาเปิด พร้อมแนะนำส่วนต่างๆ ของที่พัก

ห้องพักนี้คุณแก้วจองผ่าน Airbnb โดยมีเพื่อนที่ปารีสช่วยดูให้ว่าเป็นย่านที่โอเคปลอดภัยน่าอยู่ไหม ห้องนี้อยู่ติดกับNotre Dame ชนิดที่เห็นวิหารจากห้องพักเลย ซึ่งมาเห็นด้วยตาก็ตรงตามโฆษณาที่คุณอลิสาเขียนไว้ คุณแก้วจะนอนบนโซฟาเบดในห้องรับแขก ห้องรับแขกทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ของคุณแก้ว เราสองคนจะแชร์ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ทั้งสองห้องนั้นอยู่คนละที่ คุณแก้วไม่ชินเหมือนกันนะ อีกส่วนที่แชร์ก็คือห้องครัว ซึ่งคุณแก้วคิดไว้แล้วว่าคงใช้แค่ไปดื่มน้ำ ปิดท้ายด้วยการมอบรหัสไวไฟให้กัน จากนั้นคุณอลิสาก็แยกตัวเข้าห้องนอนหล่อนไป

IMG_9426IMG_9432

(เห็น Notre Dame ไหม ถ่ายจากหน้าต่างห้องพัก วิวแบบ ฉันชนะค่ะ มากจริงๆ)

คุณแก้วก็สำรวจตรวจตราอีกสักพัก ถ่ายรูปกรุบกริบกับวิววิหารนอกหน้าต่าง จากนั้นคุณแก้วก็ต้องปฏิบัติภารกิจแรก นั่นคือการไปที่ “วัวหนึ่งตัวไป” ซึ่งในส่วนนี้คุณแก้วจะข้ามไป เปรียบเสมือนว่าความทรงจำได้ขาดหาย เข้าใจตรงกันนะ

แต่ก็มีเรื่องให้เล่าจนได้ คือตอนอยู่ที่นั่น คุณแก้วก็สวยอะเนอะ ก็มีผู้ชายมาดีล ซึ่งฮีก็ parler français สุดฤทธิ์ คุณแก้วก็เลยตอบไปอย่างคล่องแคล่วด้วยประโยคที่จำได้แม่นที่สุดจากการเรียนภาษาฝรั่งเศสมา 1 ปี ว่า “Je ne peux pas parler français” แปลเป็นไทยว่า ฉันพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ค่ะ เนอะ พูดว่าพูดไม่ได้ แต่พูดเป็นภาษาฮี ฮีก็สาดมาอีกชุดใหญ่เลย ฮีก็อังกฤษไม่ได้อีก ลงท้ายก็แยกย้ายกันไปทางใครทางมัน

(หกโมงเย็น ฟ้าใส แดดสวย เรือล่องแม่น้ำแซนต์คือแน่น)

กลับมาที่พักประมาณหกโมงเย็น พระอาทิตย์ยังฉายแสงยิ้มแฉ่ง มือถือบอกว่าพระอาทิตย์ตกตอนสองทุ่ม อีกตั้งสองชั่วโมงจะปล่อยเวลาให้ทิ้งไปกับการแลกเปลี่ยนก๊าซก็ใช่ที่ คุณแก้วเลยคว้ากระเป๋าออกเดินเยี่ยมชมละแวกรอบที่พักเสียหน่อย

(ภาพซ้าย ประตูตรงกลางคือทางเข้า ส่วนภาพขวาคือบรรยากาศถนนเส้นนี้)

เดินข้ามจากบ้านมานิดเดียวก็พบกับคำถามจากรายการลุ้นข้ามโลก สิ่งนี้มีไว้ให้เข้า จริง หรือ หลอก คำตอบคือจริง สิ่งนี้มีไว้ให้เข้าไปออก เพราะมันคือห้องน้ำสาธารณะ อีกด้านหนึ่งมีไว้ให้เข้า จริง หรือ หลอก คำตอบคือหลอก เพราะอีกด้านเป็นก๊อกน้ำดื่ม ก็เก๋ดี คุณแก้วแอบคิดขำๆ ว่าเขาคงไม่ได้รียูสน้ำจากอีกฝั่งมาอีกฝั่งหรอกเนอะ

ว้าย กลับหลังหันมาก็เจอวิหาร Notre Dame ใหญ่โตดีจริงๆ และคนเยอะมาก มีทั้งคนที่ถ่ายรูปอยู่หน้าวิหารและที่ต่อแถวเพื่อเข้าชมด้านใน คุณแก้วก็ได้ฟังเสียงระฆังเหง่งหง่างมาทุกชั่วโมง ไม่สิบางทีครึ่งชั่วโมงก็มี บางทีสิบห้านาทีก็มี ว่าจะเข้าชมแต่ก็เห็นว่าแถวยาว บวกกับคุณแก้วมาให้ชุดขาสั้นแบบปริศนาเลยเอาไว้วันหลังจะเหมาะกว่า มาช่วงเย็นนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะแสงอาทิตย์เริ่มสาดสะท้อนด้านหน้า เอ๊ะ หรือด้านหลัง หรือด้านข้าง เอาเป็นว่าด้านนี้ เรียก ด้านนี้ ละกัน แสงสาดสะท้อนวิหารด้านนี้เปล่งประกายสีน้ำตาลทองงดงามมาก

IMG_9468

ว่าแล้วคุณแก้วก็เดินไปอีกฝั่งของวิหาร ชมแม่น้ำแซนต์ เดินเลาะเข้าสวนด้านข้างไปออกอีกฝั่งของวิหาร แล้วก็เดินตามสะพาน ข้ามบ้าง ลงบ้าง ขึ้นบ้าง เป็นการเดินแพรแวดที่แท้ทรู ก่อนจะปิดท้ายด้วยการมานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกดินที่สะพานก่อนถึงที่พัก

(Notre Dame)

(ถนนหนทาง แม่น้ำ ตึก และผู้คน)

(ใต้สะพานต่างๆ มีกิจกรรมมากมาย เช่น สนามเด็กเล่น ลานออกกำลังกาย และวันนี้มีดนตรีสดด้วย)

(Pont d’Acore สะพานที่ติดกับที่พัก ไม่ต้องกลัวหลงเพราะมี L’occitane สีเหลืองเด่น ที่แบบ…เด่นไป และวิวพระอาทิตย์เริ่มคล้อย ที่สุดท้าย…อ่านต่อ)

แต่ก็ไม่ได้ดู เพราะหิว คือนั่งเล่นตอนทุ่มนิดๆ ท้องเริ่มเสียด ทุ่มนิดๆๆ ท้องเริ่มปวด ไม่ต้องรออีกนิด คุณแก้วลุกเดินไปหาของแหลกทันที

วันแรกมื้อแรกของการแหลกเอง ขออะไรง่ายๆ ก็แล้วกันนะ คุณแก้วเดินดูตามถนนที่มุ่งหน้าไปวิหาร มีร้านนั่งดีงาม ซึ่งทุกคนนั่งนอกร้าน ถามเพื่อนทีหลังนางบอกว่าชาวปารีสชอบแดด คือช่วงที่คุณแก้วไปนี่อบอุ่นแกมร้อนมาก กลางวันสูงสุดไปถึง 28-29 ค่ำๆ นี้ก็แค่ 21-22 ชาวปารีสชอบ แต่คุณแก้วเศร้า คุณแก้วอยากได้ 14

ยังไม่เลือกร้านต่างๆ เพราะเกร็งๆ กลัวๆ เลยมาสรุปลงท้ายด้วยร้านแซนวิชคุณลุง ตอนสั่งคุณลุงก็ยิ้มแย้มดีนะ แต่พอจะถ่ายรูป ดูเอาเองละกัน คุณแก้วอยากแหลก Hot Dog มาก แต่ไม่น่าจะอิ่ม เลยสั่ง Salami Fromage ด้วย คุณลุงก็อุ่นร้อนให้เรียบร้อย คุณแก้วก็นำกลับมาแหลกบนห้องพัก

และสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น คือ คือ คือ แหลกไม่หมด เป็นไปได้ มันเป็นไปได้ มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ

IMG_9524

(พยายามสู้มาก แหลกไม่หมด รู้ถึงไหนอายถึงนั่น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ)

แล้วก็อาบน้ำ เตรียมนอน พักผ่อน พรุ่งนี้นัดเพื่อนไว้ไปเที่ยวตามแลนด์มาร์กต่างๆ ทีแรกคุณแก้วก็กังวลว่าจะหลับไหมนะ เพราะเสียงระฆังมาเรื่อยๆ เลย แต่ฟังไปฟังมาก็เพราะดี บางทีก็มีร้องตาม เพราะนะ เพราะมากเพราะจนสุดท้ายคุณแก้วเมาเสียงตัวเองแล้วผลอยหลับไป

… to be continued

#jeneveuxpastravaillerคุณค่าที่คุณคู่ควร

Leave a comment