PARIS DAY 2: LANDMARKS

วันนี้จะได้เป็นนักท่องเที่ยวอย่างเต็มตัวเพราะคุณแขจะมาพาคุณแก้วเที่ยว คุณแขอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศสมาหลายปี หล่อนวางแผนเที่ยววันนี้ให้เสร็จสรรพ คุณแก้วส่งรายการสถานที่ที่อยากไปให้ประมาณ 10  ที่ คุณแข ตกใจ แล้วถามหนึ่งประโยคว่าอยากไปที่ไหนสุด อย่างนี้ไม่ยากหรอกตอบได้โดยไม่ต้องปรึกษาพี่ติ๊นา ที่แรกที่ต้องไป หอไอเฟล

เดินจากที่พักไม่ถึงสิบนาทีคุณแก้วก็มาถึงสถานีรถไฟ Cité ซึ่งมีรถไฟสาย 4 สายเดียว รถไฟที่ปารีสก็ถือว่าทั่วถึงทั่วไทยไปทั่วเมือง ป้ายมีบอกชัดเจนไม่หลงแน่นอน เข้าไปในสถานีคุณแก้วก็เห็นว่าต้องลงลิฟต์ไปที่ชานชาลา (นึกภาพลิฟต์ส่งของใหญ่ๆ) ซึ่งนั่น ลิฟต์กำลังจะปิด แต่ด้วยใจที่ทะนงคุณแก้วเลยไม่วิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงทำแล้ว เพราะว่าลิฟต์นี้เป็นระบบอัตโนมัติ เมื่อเปิดแล้วนางจะรอ 30 วินาทีแล้วปิดแล้วไป ฉะนั้นไม่ต้องเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษคนด้านในที่ไม่กดให้ 

 

 

(ทุกสถานีมีป้ายบอกชัดเจน ใจเย็นๆ จะไม่หลง / ลิฟต์ / ชานชาลาสถานี Cité)

ส่วนบัตรโดยสาร คุณแขจัดการเตรียมบัตรไว้ให้แล้วคุณแก้วเลยประหยัดไป 5 ยูโร โดยคุณแก้วเติมเงินไป 15 ยูโรแบบไม่จำกัดเที่ยวในหนึ่งสัปดาห์ บุญหัวที่เริ่มเที่ยววันจันทร์พอดี เพราะการเติมเงินรายสัปดาห์ที่นี่เขาไม่นับเป็นวันเจ็ดวันนะ เขาจะตัดทุกวันอาทิตย์ ฉะนั้นเติมวันจันทร์แบบนี้คุ้มสุด และคุณแก้วว่าเติมแบบไม่จำกัดเที่ยวนี่ดีแล้ว เผื่อพลัดเผื่อลงเผื่องงเผื่องวยจะได้ไม่ต้องมาตีอกชกหัวเสียค่ารถใหม่หลายรอบ

IMG_5294

(เจอแอเรียลที่ทางออกสถานี Trocadéro)

นั่งสาย 4 มา Starsbourg-St-Denis เพื่อต่อสาย 9 ไปลง Trocadéro หอไอเฟลเป็นแลนด์มาร์กหลักของเมือง มีรถไฟผ่านหลายสายและหลายสถานี แต่คุณแขเลือกให้มาที่นี่เพราะว่าจะได้เห็นหอในมุมไกล แล้วเดินลงไปเรื่อยๆ จนถึงตัวหอ ซึ่งก็ไม่ทำให้คุณแก้วผิดหวังเลย เพราะแค่ออกจากสถานีมาห้าก้าวเดินเท่านั้น วัวล่ะ! นี่คืออุทานแบบปาครีเซียงนะ Voilà หอไอเฟลเป็นเด่นสง่าอยู่นั่นไง คุณแก้วมาถึงปารีสแล้วจริงๆ … ถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้วไหม

IMG_5295

(ภาพแรกของหอไอเฟล)

ถ่ายรูป ถ่ายรูป ถ่ายรูป และถ่ายรูป และถ่ายรูป และก็ถ่ายรูป และก็ถ่ายรูปอีก

 

(เพลิดเพลินเจริญรูป)

ถ่ายมาแปดสิบล้านรูป (ไม่ถึง) จุใจยิ่งเพราะคุณแขยินดีเป็นช่างภาพให้ ถามว่าจะให้ถ่ายกลับให้ไหมก็ไม่เอาเพราะหล่อนบอกว่าหล่อนมาได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว สวรรค์ ถามเป็นมารยาทไปงั้นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ ถ่ายไปเดินลงตามทางไปเรื่อยๆ ท่านั้นท่านี้ คุณแก้วต้องกำชับว่าถ้าท่าไหนเกินเบอร์ไป ไม่ควรทำ คุณแขต้องบอกนะ …. ไม่มีหรอกค่ะ เพราะทุกกริยาของคุณแก้วนั้นสง่างามสมค่าการรอคอย (ของใคร) 

เดินถ่ายรูปมาเรื่อยๆ จนถึง Pont D’Iena เป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปกับหอได้สวย คุณแก้วกับคุณแขก็ต้องรอจังหวะกันสุดฤทธิ์เพื่อให้ได้ภาพถนนโล่งโปร่ง ข้ามมาสุดสะพานมีม้าหมุนซึ่งอยากขึ้นมาก ทีแรกไปถึงยังไม่เปิด หันไปหันมามีพนักงานมาพอดี ยกเหล็กที่กั้นไว้ออก ยกออก ยกออก ยกออกไปครึ่งนึงแล้วก็หยุด พูดๆๆๆๆๆ ไรไม่รู้แล้วก็ขี่รถออกไป คุณแขแปลให้ฟังสรุปความได้ว่า จริงๆ ต้องมีอีกคนมาช่วยกันแต่มันไม่มาฉะนั้นตูจะไม่ทำ(เปิดม้าหมุน)จนเสร็จเดี๋ยวมันได้ใจ …. อะไร! ไปงอนไปมีศักดิ์ศรีกันวันอื๊นนนนนนนนนนนน

 

(Pont D’Iena / ม้าหมุน)

น้อยใจม้าหมุน หลุนๆ กลิ้งๆ ตัวไปขึ้นเรือละกัน เดิมทีเคยคุยกับคุณแขว่าอยากล่องแม่น้ำแซนต์ตอนพระอาทิตย์ตกดิน แต่คือช่วงนี้ปารีสตกดินกันสองทุ่ม อย่ารอเลย ล่องเถอะ ใช้บริการของ Bateaux Parisiens ราคา 15 ยูโร (คูณ 38 ได้ 570 บาท) เรือล่องแบบนอนสต๊อปไปตามแม่น้ำแซนต์ไปวนเกาะที่มีโบสถ์ Notre Dame แล้วก็กลับมาจอดส่งที่เดิม บนเรือมีไวไฟฟรีให้พร้อมออดิโอไกด์ ซึ่งก็…ไม่ฟัง 555 ให้คุณแขเป็นคนเล่าเอาดีกว่า เรือลอดสะพานไปเรื่อยๆ แต่ละสะพานก็มีความงามที่แตกต่างกันออกไป ผ่านอาคารสำคัญต่างๆ มากมาย 

 

(ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ / ป้ายบอกเส้นทาง / ทางเข้า / ต่อคิวลงเรือ)

 

(เรือเริ่มออกจาท่า)

 

(ระหว่างล่องเรือ)

เล่าเรื่องเรือนิดนึงว่าก็มีเรือแบบจอดหลายท่าให้เลือกนะ สามารถซื้อตั๋ววันแล้วนั่งไปลงจุดเที่ยวต่างๆ เที่ยวเสร็จก็มานั่งเรือไปต่อจุดเที่ยวอื่นๆ ได้ แต่คุณแก้วและคุณแขเลือกแบบขึ้นลงที่เดิมเพราะเราจะกลับมาที่หอไอเฟลต่อ

 

(เรือผ่านมาแถวที่พัก ก็เลยโบกมือทักทายผู้คนที่ ….. ไม่รู้จัก)

เม้าอีกว่าบนเรืออะ มีคนสูบบุหรี่ ปารีสเป็นเมืองที่คนสูบบุหรี่ทั่วไปกันมาก มีทุกถนน มีทุกวัน มีทุกที่ มีทุกเวลา แต่นี่บนเรือ ต้องไม่สูบหรือเปล่านะ ถามไปคุณแขก็บอกจริงๆ ก็ไม่ควร แต่บางคนก็คือ ……. คุณแก้วก็เลยได้แค่มองๆ แล้วก็ทำใจปล่อยวางอโหสิให้ว่าตอนเป็นมะเร็งปอดขอไม่มาเยี่ยมนะ บาย

 

(บางสะพานก็ใกล้ชิดศีรษะมาก / ผ่านจุดต่างๆ ก็ได้ข้อมูลจากคุณแข)

 

(วนกลับมาจะถึงท่าเดิมแล้ว ถ่ายรูปทิ้งทวนสักหน่อย)

เรือวนกลับมาจอดยังหอไอเฟล ได้เข้าข้างใต้ละ มีการตรวจเข้มเพื่อความปลอดภัย เข้าไปแล้วก็ว้าวววววววว ใหญ่โตจริง แถมวันนี้วันดีคนไม่เยอะมาก

 

(ถ่ายด้านหน้าซ้ำ ก่อนจะมาข้างใน)

 

(คือคนไม่ได้เยอะ แล้วแม่ป้าจะมากูรูกูจุ๊กตรงที่หนูยืนโพสอยู่ทำไมอะคะ)

 

(มีลิฟต์ขึ้นด้านบน แต่เราหิวละ เดินออกมา เอ๊า มีมุมให้ถ่ายอี๊ก)

ดูไปดูมาดูนาฬิกา เอ๊า!! เที่ยง วันนี้ตั้งใจจะไปสิบที่ นี่เที่ยงละได้ที่เดียว แต่นั่นไม่สำคัญเท่าความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่ว่า เที่ยงแล้ว หิว

 

(รถไฟ บ๊ายบายไอเฟลจากตรงนี้ และเบาะที่แบบ ถ้ามีคนนั่งตรงข้ามรับรองว่าหัวเข่าได้ปฏิสนธิกันแน่นอน)

เดินนิดหน่อยมาขึ้นสาย 6 ที่ Bir-Hakeim ต่อเดียวไปลง Charles de Gaulle-Étoile ซึ่งเป็นสถานีใต้ประตูชัย Arc de Triomphe เลย แต่แต่แต่ หันไปมองแล้วหยุดแค่นั้นจ้ะ แหลกก่อนนะจ๊ะ หิวมากจ้ะ เดินย้อนมาตาม Champs-Élysées เพื่อมาเยือน Mc Donald วั้ยต่ายแร้ว สังคมจะประณามหยามเหยียดไหมมาถึงปารีสเลือกแหลกแมค คืองี้ คุณแขก็ถามแล้วว่าเอาแบบไหนมีหลายแบบให้เลือก คุณแก้วนี่แหละเลือกแมค แต่แมคที่นี่เก๋นะ และมันเก๋แค่สาขานี้เลยด้วย 

 

(เรียกว่า “แมคโด” นะจ๊ะ)

ไอ้เรื่องระบบการสั่งผ่านหน้าจออะไรนี่ไม่ใช่ความเก๋หรอก ที่เก๋คือพนักงานของแมคจะใส่สูทกันสวยงามประหนึ่งอยู่ในร้านอาหารหรูหราหมาเห่าโฮ่งโฮ่ง คุณแก้วก็สั่งหนึ่งในเมนูซิกเนอเจอร์ของทางร้านมา ความเก๋ต่อมาที่คุณแก้วเก๋เองคนเดียวคือ ระหว่างยืนรออาหารของคุณแข ด้วยความหีวววววววของตัวเอง คุณแก้วก็เลยแง้มดูกล่องอาหารในมือ แล้วหยิบมันฝรั่งที่ไม่ใช่เศษแต่เป็นมันฝรั่งเต็มๆ เข้าปาก ซึ่ง มัน ร้อน มาก แต่ คาย ไม่ ได้ เพราะ มี ชะ นี ต่าง ชาติ ยืน มอง อยู่ ก็ เลย ต้อง แหลก ต่อ และ กลืน ลง ไป ผลคือเพดานปากพอง เป็นไปตลอดทริป สึส 555

 

(อร่อยลวกปาก โถ วงวาร)

เนื่องจากเป็นแมคโดย่านท่องเที่ยว อ่อ คนที่นี่เขาไม่เรียกแมคโดนัลด์นะ แมค เฉยๆ ก็ไม่เรียก เรียก แมคโด พอเป็นย่านท่องเที่ยวก็เดี๋ยวห้องน้ำจะพลุกพล่าน ร้านจะให้เหรียญเรามาคนละเหรียญก็ไม่ต้องดีใจว่าอุ๊ยมีของที่ระลึกแจกเนอะ มันคือเหรียญเวทมนต์ หยอดแล้วประตูส้วมจะเปิด คุณแก้วพกไปเข้าห้องน้ำ เอ๊า ก็ไม่เห็นต้องใช้ก็เข้าได้ พอเข้าไปแล้วถึงอ๋อ ว่าแบบห้องน้ำชายนี่เข้าไปฉี่ได้ แต่ถ้าจะหนักจะต้องใช้เหรียญหยอดนั่นเอง

 

(เหรียญ / หนักต้องใช้ / ชายเบาตามสบาย)

 

(บ๊ายบายแมคโด และรถนี่ให้เช่าขับสวยๆ ได้)

อิ่มแล้วก็เที่ยวต่อ เดินย้อนกลับมาที่ประตูชัย ถ่ายรูป ถ่ายรูป ถ่ายรูป จากนั้นก็มองหาบันไดกันให้เจอนะจ๊ะ มันจะมีบันไดที่ลอดใต้ถนนไปกลางประตูได้ หา กรุณาหา อย่าวิ่งข้ามนะ ใครใคร่ขึ้นดูวิวปารีสจากด้านบนประตูก็ตามสบาย ส่วนคุณแก้วหมายใจจะหาเวลาสักกลางคืนมาดู แต่จนจบทริปก็ไม่เจอ 

 

(สองภาพนี้คือการโดนแอบถ่ายในขณะที่เราสองคนกำลังถ่ายรูปกันอยู่ แต่ เราไปกันแค่สองคน ใช่ค่ะ ความจริงคืออิฉันไปยืนและคุณแขก็ถ่ายรูปให้ ถ่ายรูปที่ลงนี่แหละค่ะ ส่วนอิฉันที่ทำท่าต่างๆ นั้น ก็มองลมมองฟ้า มองตากล้องในจินตนาการ ทำเอาคนแถวนั้นงงไปตามๆ กัน)

 

(ถ่ายแบบปกติชนละ โพสๆ ไปค่ะ รถบ๊งรถบัสอะไรมันจะมาจอดแช่ก็ทำใจถ่ายติดมันไปเลย)

 

(ลอดมาถ่ายรูปนะคะ อย่าวิ่งข้าม ไม่งาม และอาจไม่ถึงค่ะ)

 

(เดินวนให้รอบ หาจุดที่พระอาทิตย์เป็นใจให้เรา)

สาแก่ใจแล้วก็เดินแพรแวดต่อมาดูกระเป๋าที่ Louise Vitton พอดีคุณแขเธอมีเพื่อนทำงานอยู่แต่ไม่เข้าวันนั้น ก็เลยสั่งของไว้ก่อนแล้วมารับวันหลัง นั่งรถไฟจากสถานี George V มาลง Concorde เพื่อเยี่ยมชม Place de la Concorde ซึ่งก็มีเสาจากอียิปต์ มีน้ำพุ มีเสาไฟประดับถนนที่เป็นต้นแบบของการประดับประดาถนนราชดำเนินบ้านเรา

 

(ไปต่อ ไม่รอละนะ)

 

(Place de la Concorde)

ถ่ายรูปกรุบกริบแล้วก็นั่งรถไฟจากสถานีเดิมมาลง Palais Royal – Musée de Louvre ซึ่งคุณแก้วนั้นซื้อตั๋วเข้าชมไว้วันพุธ วันนี้วันจันทร์จะมาทำไม ก็ยังถามคุณแขอยู่ คุณแขตอบว่า มาถ่ายรูปสิคะคุณ เออ ซึ่งเป็นความคิดที่ดีเลิศมาก เพราะเราควรมีรูปถ่ายกับพีระมิดแบบดีงามใช่มะ ไอ้ครั้นจะไหว้วานผู้คนถ่ายให้ก็เกรงใจความเยอะของเรา ไม่ก็เกรงว่าเขาจะไม่แค่ถ่ายแต่วิ่งไปพร้อมโทรศัพท์ สรุป อยู่กับคุณแขเลยได้รูปหนำใจทั้งในทั้งนอก และแน่นอนอีท่าจับยอดพีระมิดที่ทุกคนต้องทำนั้น คุณแก้วเชื่อมั่นว่าท่าของคุณแก้วไม่ซ้ำใครแน่นอน

 

(ณ ลูฟ เริ่มจากด้านในพีระมิดก่อน ท่าบังคับคือเอามือไปจ่อจิ้มตรงยอดที่พุ่งลงมา)

 

(ดื่มชา บอกคนขายว่าชื่อ CK ซีเค นางเขียนเป็นฝรั่งเศสไปเลย / เจ้าหน้าที่มาตรวจตราอะไรไม่รู้ รู้แค่ว่ามันคงเป็นความรัก ค่ะ ใช่ค่ะ)

 

(ขึ้นมาด้านบน)

 

(ท่าบังคับ ไปถึงแล้วอย่าทำเขินอาย ทำไป ไม่งั้นจะมาเสียดายตอนเครื่องแลนด์ที่สุวรรณภูมิ)

IMG_5725

(และนี่คือภาพที่ชนะแคมเปญของลูฟ ผู้ชนะจะได้รับบัตรเข้าพิพิธภัณฑ์ของเมื่อวานนี้)

ยังค่ะยัง อีคุณ เอ๊ย คุณ 555 คุณแขนางไม่ปล่อยกลับบ้านง่ายๆ (ซึ่งคุณแก้วก็แฮ้บปี้แหละเอาจริงๆ) มันมีรถไฟนะ มีนะ แต่อยากเดิน ก็เลยเดินตาม Ave de ‘Opéra กันสองคนต๊อกๆ แบบพอครึ่งทางก็เกิดอาการกลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปก็ต้องเดินต่อไปสิวะคะ มาจนถึง Palais Garnier ไม่ใช่ครีมย้อมผม เอ๊ะ เดี๋ยวตีเลย มันคือโรงละครในเรื่อง The Phantom of the Opera ที่เลื่องชื่อ คุณแก้วก็เลยขอประชันเงาเสียงด้วยการขับกล่อมบทเพลงของคริสตีนดาเอ้ไป ไพเราะซะจนคนแถวนั้นคิดในใจว่า ยินดีด้วยค่ะคุณคือนักร้องเสียงเพี้ยน 

 

(อ๊า อา อา อ๊า อา อ่า อา อ๊าาาาาาาาาา)

จากนั้นเราก็ตัดสินใจแยกย้ายกันไปตามทางของตน ณ เวลาห้าโมงกว่าๆ เนื่องจากคุณแขต้องไปรับลูกที่โรงเรียน ส่วนคุณแก้ว หึ หึ ใครจะกลับบ้านล่ะ ไม่เหนื่อยหรอ ก็เหนื่อยนะ แต่ก็ขอแวะระหว่างทางกลับละกัน คือนั่งรถไฟจากสถานี Opéra ต้องมาเปลี่ยนขบวนที่สถานี Châtelet – Les Halles ซึ่งนางอยู่ใต้ห้างใหญ่โต ก็เลยขอโผล่ขึ้นมาเดินดูของเล่นสักเล็กน้อย เดินอย่างเดียว อยากได้นะ และก็มีเงินด้วย แต่ไม่มีที่เก็บ เลยตัดใจ และเห็นว่าไม่ไกลจากที่พักนัก ก็เลยเดินเล่นเรื่อยๆ มาจนถึงที่พัก และสุดท้ายก็จบวันด้วยช็อกโกแลตที่ได้มาจากบนเครื่องบิน

 

(รถไฟสองชั้น)

 

(วั้ย อยากได้)

 

(ย่านเกย์ไม่ไกลจากที่พัก / อาหารมื้อที่สองของวัน ฉันแหลกน้อยมาก)

จบวันดื้อๆ รีบนอน พรุ่งนี้จะไปดิสนีย์แลนด์

to be continued

#jeneveuxpastravaillerคุณค่าที่คุณคู่ควร

#KongmusicalAroundtheWorld

 

Leave a comment