Paris Day 4 : Versailles-Louvre-Moulin Rouge

วันที่ 4 ในปารีส วันนี้เราจะหรูหราหมาเห่ากันมาก แผนที่วางไว้คือ เช้าไปแวร์ซายส์ บ่ายไปลูฟ ค่ำไปมูแลงรูจ โดยทางเราได้ซื้อตั๋วของทั้งสามที่ทางออนไลน์เรียบร้อยที่ราคา 20 17 และ 183 ยูโร โดยลำดับ

IMG_4616

(บรรยากาศหน้านอตเธอดามยามเช้าที่คนน้อยถึงน้อยมาก)

เจ็ดโมงครึ่ง คุณแก้วเริ่มออกเดินทางไปขึ้นรถไฟ โชคดีเหลือเกินที่ได้เดินผ่านวิหารนอตเธอดามตอนนี้ เพราะคือโล่ง สงบ นั่งรถไฟสาย A มาลงสถานี Versailler Château Rive Gauche ตรงนี้ทีแรกเห็นมี Versailles Chantiers เกือบจะไปแล้ว แต่คนละสถานีกัน

(แผนที่สถานี / รถไฟสองชั้นในปารีส / เดินตามกันไปยังไงก็ถูก)

พอออกจากรถไฟแล้วก็ไม่ต้องกลัวหลงค่ะ (แต่วันนั้นก็กลัว ถึงกับต้องเปิดแผนที่ในมือถือเดิน) คือเช้าอยู่คนไม่เยอะมาก แต่ในหมู่คนที่ไม่เยอะมากนั้นคุณแก้วดูออกได้ไม่ยากเลยว่าใครเป็นนักท่องเที่ยวบ้าง ก็ตามๆ กันไปจน วะ วะ วะ ว้าววววววว เวิ้งแวร์ซายส์ค่ะ

IMG_4620

ต้องมีตั๋วในการเข้าชมพระราชวังนะคะ มาซื้อที่นี่ก็ได้ คุณแก้วซื้อออนไลน์ไว้แล้วรอบแรก 9 โมง ตอนไปถึงนี่เพิ่งแปดโมงครึ่ง แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะรอแบบไม่มีอะไรทำ ต้อง ถ่าย รูป ครั้นจะเซลฟี่ก็ไม่ใช่เรื่อง เอาวะ ก็ต้องสบตา สบตา และสบตา จนได้นักท่องเที่ยวใจดีถ่ายรูปให้ คุณแก้วก็ถ่ายกลับคืนให้เป็นการขอบคุณ

IMG_4621

ใกล้ถึงเวลา มีทัวร์มาและเริ่มมีแถว คุณแก้วก็ไปต่อ ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ของวังออกมาจัดระเบียบ ให้คนที่มีตั๋วรอบแรกแยกมาอีกแถว อิอิ รู้สึกสวย

(ต่อแถวกันแล้ว / คุณเจ้าหน้าที่มาบอกว่าใครรอบเก้าโมงไปเข้าอีกแถว / คนสวยรอบเก้าโมง / ออดิโอไกด์)

(ถ่ายย้อนออกไปด้านนอก / ถ่ายวังชัดๆ ไม่มีคนขวางเลย ดีงาม)

เข้าไปด้านในก็มีแผนที่แจกพร้อมออดิโอไกด์ รับๆ มาก่อนค่ะ ส่วนคุณแก้วนั้นก็รับๆ มาก่อนจริงๆ เพราะฟังน้อยมาก เดินผ่านแต่ละห้องก็ชื่นชมความสวยงามอลังการระยิบระยับวับวาม กดออดิโอไกด์ฟังบ้างเหมือนกัน แต่ข้อมูลมาแบบจัดหนักจัดเต็มมาก คือข้อมูลดีนะคะ แต่ต้องอาศัยเวลาในการฟัง แล้วเวลาเราก็มีจำกัด (สามชั่วโมงนี่หรอจำกัด) ก็เลยเดินๆๆๆๆๆๆๆๆ เอา

ห้องที่สวยสุดสวยจริงไม่อิงใครก็ห้องกระจกที่เป็นโถงยาวหลังวัง สวยจริงๆ และบุญของคุณแก้วจริงๆ ที่มารอบแรก นักท่องเที่ยวยังไม่มาก สามารถได้รูปสวยงามดังใจ

IMG_4634

(สวยแบบ ….. เราจะเซลฟี่ไม่ได้เด็ดขาด และบุญเหลือเกิน คุณผู้หญิงกระเป๋าชมพูคะ ถ่ายรูปให้หน่อยนะคะ)

IMG_4635

(ได้รูปดีมาก ปลาบปลื้ม อาริกาโตะมากๆ นะคะ)

เดินไปเดินมา อ้าว ทั่วแล้ว ยังไงต่อดี อะ มีสวนด้านหลังต่อ คุณแก้วก็เดินไป โอโห้…… ใหญ่โตสุดลูกหูลูกตามาก มีวังเล็กๆ สวนต่างๆ กระจายอยู่ ซึ่งกว่าจะเปิดก็ช่วงบ่าย อะ มาแล้วเนอะ ดูแค่ข้างนอกก็ยังดี

ที่นี่มีรถกอล์ฟให้เช่า ซึ่งเสียใจมาก ณ จุดนี้ เพราะไม่ได้เอาใบขับขี่มา ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลยนะคะไม่ต้องใบขับขี่สากล แต่ก็นั่นแหละค่ะ อยู่ในกระเป๋าเงินไทยที่เก็บไว้ในห้องพัก

คุณแก้วยังไม่ท้อ เขาบอกมีรถไฟ เปิด 11 โมง ไปค่ะไปรอ นั่งรอใต้ร่มวังจนใกล้ๆ เวลาเปิดก็ไปยืนต่อแถวกับชาวบ้านเขา ต่ออยู่นานจนล้ากันไปทีละคนสองคนสามคนสี่คน กลับมานั่งรอต่อ จน เกือบ เที่ยง ค่ะ เที่ยง พอ พอกันที แยกย้าย กลับค่ะ รมเสีย

(จุดขึ้นรถไฟที่คุณแก้วและนักท่องเที่ยวหลายคนยืนตากแดดแผดเผาร่วมชั่วโมง / คุณป้าที่แบบจะมาใกล้ชิดคอลเกตดาร์ลี่คุณแก้วทำไมขนาดนี้ ที่สำคัญทำไมไม่ติดตะขอกางเกง / ตารางรถไฟ ที่คุณแก้วอ่านแล้วอ่านอีกว่าเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า)

นั่งรถไฟกลับมาลูฟอย่างอ่อนล้า ความคิดเบื้องต้นที่จะเสพงานศิลป์ไปเรื่อยๆ มีอันพับเก็บไปเรียบร้อย มุ่งหน้าสู่ภาพวาดโมนิซ่า ซึ่งไม่มีทางหลงอีกเช่นเคยแม้ว่าคนจะเยอะ เพราะมีป้ายบอกทางตลอด มาถึงหน้านาง คนเยอะมาก และเป็นการต่อคิวอย่างหลวมๆ คือมีแถว แต่หลายแถว และมีคนเบียดแทรกบ้าง คุณแก้วก็เลือกแถวกลางๆ มีคนจะแทรก คุณแก้วก็อาศัยว่าตัวเองร่างสูงใหญ่เบียดกลับไปได้สำเร็จ

(แถวยาว คนเยอะ / เซลฟี่กับนาง / หันกลับมาก็มีภาพ ที่คนโล่งมาก)

IMG_4650

(ไม่ใช่พี่แอนทองประสม)

คำแนะนำในช่วงนี้คือ เราต้องพร้อม กล้องต้องพร้อม ถึงคิวไปถึงหน้าสุดแล้วรัวๆๆๆๆๆๆ แชะๆๆๆๆๆๆ ตรงนี้ต้องอาศัยความกล้าพอประมาณ นึกภาพตามว่าเราเซลฟี่หันหลังให้ภาพวาด หน้าเราคือใครคะ ก็คือคนที่รอคิวต่อจากเราไง ซึ่งนางก็จะภาวนาในใจให้เราเสร็จเร็วๆ อยู่แล้ว แต่เราห้ามเครียดตาม เราต้องไม่เทค แล้วยิ้ม ยิ้มแบบโมนาลิซ่านั่นแหละ แชะๆๆๆๆๆๆ

จบภารกิจ เดินทางต่อ ว่าจะแวะไปร้านเฉพาะกิจเสียหน่อย ระหว่างทางหิวมาก สุ่มได้มาหนึ่งร้าน ขอนั่งระเบียงด้านหน้าแบบปาครีเซียง สั่งสลัดที่เขาติดป้ายแนะนำหน้าร้านโดยไม่อ่านเลยว่ามันคืออะไร ผลคือ ……. กินไปน้อยมากกก แง อะช่างมันๆ

ถึงวินาทีนี้ก็เริ่มล้ามาก จนมีการถอดใจว่าจะไม่กลับไปเปลี่ยนชุดละ จะไปมูแลงรูจมันชุดนี้เลย แต่สุดท้ายก็รวบรวมพลังกลับไปเปลี่ยนชุดมาสวยงาม

(Voulez-vous coucher avec moi ce soir?)

บัตรรอบทุ่ม โรงเปิดหกครึ่ง หกนิดๆ ก็เริ่มมาต่อแถวเป็นคนต้นๆ เจ้าหน้าที่ก็รับรองและพาเข้าด้านใน พา เข้า ไป ยืน ต่อ คิว รอ ด้าน ใน จนเกือบทุ่มก็เริ่มทยอยให้คนเข้า

(เข้ามาต่อแถวกันด้านใน ก็ยังดีมีแอร์)

ตั๋วที่มีจะเป็นแค่ว่าเราสั่งอาหารอะไรไว้บ้างแต่ไม่ระบุที่นั่ง เจ้าหน้าที่หน้าโรงจะกำหนดที่นั่งให้ คุณแก้วได้นั่งโต๊ะแปดคนริมซ้าย ไม่ไกลจากเวทีนัก สักพักก็มีผู้หญิงคนนึงที่มาเดี่ยวนั่งฝั่งตรงข้าม และมีคนที่มาเป็นคู่อีกสามคู่ร่วมโต๊ะ โดยแต่ละคู่จะนั่งเรียงไปแบบหันหน้าเข้าหาคู่ตัวเอง จุดนี้คุณแก้วผู้รักสันโดษก็ต้องปรับต้องจูนโหมด เพราะจะมานั่งบ้าใบ้ก็อึดอัดเปล่าๆ ก็ต้องพยายามเปิดปากพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ที่สุดก็ผ่านไปได้

IMG_4661

(รูรามาเฮาที่แท้ทรู)

ตั๋วนี้จะรวมอาหารสามจาน ซึ่งก็ อร่อยนะ แต่ไม่อิ่มหรอก เสิร์ฟกันตั้งแต่ทุ่มจนเกือบสามก็เริ่มเคลียร์จาน การแสดงเริ่มประมาณสามทุ่มนิดๆ ซึ่งห้ามถ่ายภาพ ใกล้ๆ เริ่มการแสดงนี้ก็มีคนดูอีกกลุ่มเข้ามาเพิ่ม เดาว่าเป็นกลุ่มที่เลือกดูอย่างเดียว ไม่กิน หรือไม่ก็เลือกดูก่อนแล้วกินหลังจากนั้น เพราะจะมีโชว์อีกรอบตอนห้าทุ่ม

(จานแรก ลืมถ่าย)

ว่าที่เรื่องการแสดงก็ อืม ไม่แย่นะ แต่ว่าไม่ตรงจริตคุณแก้วเลย การแสดงส่วนมากจะเป็นนักแสดงหญิงเปิดท่อนบนเต้นไปมา …. คุณแก้วจะอินไหมล่ะ ….. มีนักแสดงชายบ้างที่แบบ มิดชิดไปไหน เห้อ รมเสียอีกแล้ว

IMG_4664

(เต็มไปด้วยคนและรถและรถและคน)

เดินออกมาจากมูแลงรูจก็ตกใจนิดนึงเพราะบรรยากาศคึกคักมาก ทั้งนักท่องเที่ยวและรถรับจ้างต่างๆ ตรงนี้คุณแขเธอเคยเตือนไว้ให้ระวัง เพราะย่านนี้ผับบาร์เยอะ นักท่องเที่ยวก็ดื่มกันมา พวกมิจฉาชีพมันก็จ้องอยู่แล้ว คุณแก้วก็ระวังตัวเป็นพิเศษ และนี่คือสิ่งที่คุณแก้วเจอ … ขออนุญาตก๊อบสเตตัสในคืนนั้นมาให้อ่านกันเลย

“อะ อันนี้น่าจะเสียวสุดในปารีสละ (จริงๆ มีพรุ่งนี้อีกวัน แต่มีเพื่อนท้องถิ่น ไม่น่ามีปัญหา)

ไปดูมูแลงรูจ เพื่อนเตือนก่อนดูละว่าออกมาต้องระวัง เพราะดื่มออกมาเนอะ มึนๆ จงโจรก็เล็งแน่ๆ แถมตรงนั้นผับบาร์เยอะ คนแน่นในยามวิกาล ตอนจองตั๋วมูแลงรูจ เห็นว่ามีสามรอบ 19.00 21.00 และ 23.00 ก็เลยเลือกรอบแรก ยังไงก็จบสามทุ่ม ยังสบายๆ เข้าโรงไปประมาณทุ่ม สั่งแชมเปญ เอาน่ะ สบายๆ สามทุ่มก็กลับแล้ว สามทุ่มยังไม่เต้นเลยจ้ะ สามทุ่มนิดๆ ถึงเริ่ม และลากยาวไปจบสี่ทุ่มครึ่ง ออกจากโรง เป็นดังว่า คนเยอะมาก คนดีก็มี คนไม่ดีก็คงมี อะถ่ายรูปโรงนิดหน่อย

แล้วรีบลงไปขึ้นรถไฟใต้ดิน ตอนมา นั่งสาย 4 มาต่อ สาย 2 ตอนนี้จะกลับ ก็นั่ง 2 ต่อ 4 … นั่ง 2 ไปถึงสถานีที่จะต่อ อ้าว อี 4 ปิด! เอาไงดี ออกไปถนนก่อนละกัน สถานีนี้เป็นสถานีบนดินพอดี ผลักประตูออกไป เจอพี่มืด 4 คนโบกมือทักเลยจ้ะ ไม่รู้เพราะชุดคุณแก้ว หรือเพราะพวกพี่แกทักทุกคน เลยถอยหลังเข้ามา (คือมือยังไม่ปล่อยประตูที่ผลักออกเลย) หันมาเจอเจ้าหน้าที่สถานี บอกออกแล้วออกเลย ไม่งั้นจ่าย 6 ยูโร คุณแก้วก็บอก I haven’t exit yet. แปลเป็นไทยว่ากูยังออกไม่ถึงครึ่งหน้าเลยอีดอก เจ้าหน้าที่พูดซ้ำ คุณแก้วเลยออกมา แล้ววกกลับ แปะบัตร เข้าสถานีใหม่

เข้ามาแล้วก็ไปยืนอยู่ตรงทางที่ต้องเลือกว่าจะนั่งอีสาย 2 ฝั่งไหน เพื่อไปต่อสายไหน (สาย 2 ไม่ผ่านที่พักและขึ้นวันนี้วันแรก) ขณะที่ยืนคิดอยู่นั้น พี่มืด (คนละคนกับกลุ่มข้างนอกสถานี) ก็หยุดแล้วมองมาทางคุณแก้ว แล้วกระซิบๆ กับเพื่อนอีกคน คุณแก้วเลือกไปชานชาลาขวา พี่มืดตาม คุณแก้วเลยแบบเอาละ เจอเล็ง เปลี่ยนใจไปซ้ายก็ได้วะกู

ขึ้นไปชานชาลาซ้าย ไม่มีใครตาม แต่ดูแผนที่อีกรอบมันอ้อม ชานชาลาขวาดีกว่า มองไปที่นั่น คนทั่วไปก็เยอะกว่าด้วย และอีพี่มืดก็ไม่อยู่แล้ว ย้ายมาชานชาลาขวา มีพี่มืด และไม่มืดแต่ดูใจน่าจะมืดอยู่บ้าง หันหลังไป เอ๊า อีดอก มืดที่หายไปเมื่อกี้โผล่มาเว้ย Target Confirmed! มากๆ

ตอนนั้นใจสั่นมาก แต่พยายามคีพคูลว่ากูไม่กลัวมึงนะ มองมามองกลับไม่โกง มองค้างไว้ คนดูจะเห็นว่าเรามองแบบ “มองอะไร มองอะไร มองไปทำไมยิ้มมา” แต่จริงๆ ในใจคือ “อย่ามองอย่างนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่” มองจนมืดหลบตาไป

รถไฟมา ยืนอยู่ห่างกัน ถ้ามืดเลื่อนมาขึ้นประตูเดียวกัน ……. จะทำไงวะ คือจะไม่ขึ้น เกิดมันไม่ขึ้น ชานชาลาก็เหลือแค่เรา งั้นขึ้น ขึ้นอีกประตู โอ๊ย มีทุกประตู

มืดนั้นขึ้นประตูหน้าตัวเองไป อะโล่ง แต่อย่างที่บอก มีหลายกลุ่ม ขึ้นมาก็เจออีกคน จ้องมา อะ เหมือนเดิม
จ้องมาจ้องกลับไม่โกง คือเช็คทุกคนมาว่านางจะเบอร์ไหน แค่ล้วง หรือมาปล้น ทุกคนบอกตรงกันว่าแค่ล้วง อะ เราก็ระวังตัวไป แต่ก็ต้องระวังแบบไม่ให้ดูกลัว เดี๋ยวมันได้ใจ นิ่งๆ แต่แขนแนบสูทสุด ถ้ามึงจะล้วงเอาของจากกระเป๋าสูทด้านในได้ มึงต้องได้หัวนมกูก่อนละ
…..
ถึงห้องโดยสวัสดิภาพค่ะ”

ออกจากสถานีรถไฟ เดินกลับห้องพักในย่านที่ไม่น่าจะมีอะไร
แต่ยอมรับว่าใจสั่นไปตลอดทาง

to be continued

#jeneveuxpastravaillerคุณค่าที่คุณคู่ควร

Leave a comment