Paris Day 4 : Versailles-Louvre-Moulin Rouge

วันที่ 4 ในปารีส วันนี้เราจะหรูหราหมาเห่ากันมาก แผนที่วางไว้คือ เช้าไปแวร์ซายส์ บ่ายไปลูฟ ค่ำไปมูแลงรูจ โดยทางเราได้ซื้อตั๋วของทั้งสามที่ทางออนไลน์เรียบร้อยที่ราคา 20 17 และ 183 ยูโร โดยลำดับ (บรรยากาศหน้านอตเธอดามยามเช้าที่คนน้อยถึงน้อยมาก) เจ็ดโมงครึ่ง คุณแก้วเริ่มออกเดินทางไปขึ้นรถไฟ โชคดีเหลือเกินที่ได้เดินผ่านวิหารนอตเธอดามตอนนี้ เพราะคือโล่ง สงบ นั่งรถไฟสาย A มาลงสถานี Versailler Château Rive Gauche ตรงนี้ทีแรกเห็นมี Versailles Chantiers เกือบจะไปแล้ว แต่คนละสถานีกัน (แผนที่สถานี / รถไฟสองชั้นในปารีส / เดินตามกันไปยังไงก็ถูก) พอออกจากรถไฟแล้วก็ไม่ต้องกลัวหลงค่ะ (แต่วันนั้นก็กลัว ถึงกับต้องเปิดแผนที่ในมือถือเดิน) คือเช้าอยู่คนไม่เยอะมาก แต่ในหมู่คนที่ไม่เยอะมากนั้นคุณแก้วดูออกได้ไม่ยากเลยว่าใครเป็นนักท่องเที่ยวบ้าง ก็ตามๆ กันไปจน วะ วะ วะ ว้าววววววว เวิ้งแวร์ซายส์ค่ะ ต้องมีตั๋วในการเข้าชมพระราชวังนะคะ มาซื้อที่นี่ก็ได้ คุณแก้วซื้อออนไลน์ไว้แล้วรอบแรก 9 โมง ตอนไปถึงนี่เพิ่งแปดโมงครึ่ง แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะรอแบบไม่มีอะไรทำ ต้อง ถ่าย รูป ครั้นจะเซลฟี่ก็ไม่ใช่เรื่อง เอาวะ ก็ต้องสบตา สบตา และสบตา จนได้นักท่องเที่ยวใจดีถ่ายรูปให้…

Paris Day 3 : Paris Disneyland

และก็มาถึงวันนี้ วันที่เราทุกคนต้องร่วมร้องเพลง “วันนี้….ที่รอคอย” นี่คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของการมาเยือนแพรีสค่ะ ใช่แล้ว นั่นคือ ปารีสดิสนีย์แลนด์ ตู้วหูว สามารถกรี๊ดไปได้เรื่อยๆ จนจบรีวิวเลยยังได้อะค่ะ อะอะ มีเนื้อหากันหน่อยเนอะ เริ่มจากตั๋ว กรุณาซื้อและปริ๊นต์ออกมาให้ล่วงลุซะตั้งแต่อยู่ไทยค่ะ เข้าเวบหลักไปเลยอุ่นใจสุด ทางเราซื้อตั๋วแบบ 1 วัน 2 สวน อ่อ คืองี้ ที่ปารีสนางจะมีสองสวนนะคะ อยู่ติดกันนั่นแหละค่ะ และจากการศึกษาข้อมูลก่อนไปทุกคนพูดตรงกันว่า ทั้งสองสวนนี้สามารถเที่ยววันเดียวพอ ฉะนั้น ตั๋วแบบนี้เหมาะสม สามารถเข้าออกเข้าออกทั้งสองสวนกี่รอบก็ได้ในวันเดียวกัน สนนราคาตอนที่ซื้อคือ 78 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามวันและเทศกาล ชุดก็ต้องมี ไปดิสนีย์แลนด์ก็ต้องแต่งกายให้เกียรติสถานที่เนอะ ซึ่งคุณแก้วก็แบบต้องเงือกอะ ต้องแอเรียล ผลที่ออกมาก็ลูกผีลูกคนดังภาพ เริ่มจากได้กางเกงเงือกจาก mertailor สั่งจากอเมริการเลยนะคะโว้ย ต่อมาก็ไปได้เสื้อสีม่วงหรอยและผ้าพันคอสีแดงจาก h&m และ zara ซึ่งพอใส่รวมกันออกมาแล้วนั้น พูดเลยว่า ยินดีด้วยค่ะ คุณได้ไป…..ไปไหนก็ไปค่ะ (ชื่อภาพ : -อย่ากลัวฉัน) แต่ต้องใส่ หายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินออกจากบ้านไปขึ้นรถไฟค่ะ…

PARIS DAY 2: LANDMARKS

วันนี้จะได้เป็นนักท่องเที่ยวอย่างเต็มตัวเพราะคุณแขจะมาพาคุณแก้วเที่ยว คุณแขอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศสมาหลายปี หล่อนวางแผนเที่ยววันนี้ให้เสร็จสรรพ คุณแก้วส่งรายการสถานที่ที่อยากไปให้ประมาณ 10  ที่ คุณแข ตกใจ แล้วถามหนึ่งประโยคว่าอยากไปที่ไหนสุด อย่างนี้ไม่ยากหรอกตอบได้โดยไม่ต้องปรึกษาพี่ติ๊นา ที่แรกที่ต้องไป หอไอเฟล เดินจากที่พักไม่ถึงสิบนาทีคุณแก้วก็มาถึงสถานีรถไฟ Cité ซึ่งมีรถไฟสาย 4 สายเดียว รถไฟที่ปารีสก็ถือว่าทั่วถึงทั่วไทยไปทั่วเมือง ป้ายมีบอกชัดเจนไม่หลงแน่นอน เข้าไปในสถานีคุณแก้วก็เห็นว่าต้องลงลิฟต์ไปที่ชานชาลา (นึกภาพลิฟต์ส่งของใหญ่ๆ) ซึ่งนั่น ลิฟต์กำลังจะปิด แต่ด้วยใจที่ทะนงคุณแก้วเลยไม่วิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงทำแล้ว เพราะว่าลิฟต์นี้เป็นระบบอัตโนมัติ เมื่อเปิดแล้วนางจะรอ 30 วินาทีแล้วปิดแล้วไป ฉะนั้นไม่ต้องเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษคนด้านในที่ไม่กดให้      (ทุกสถานีมีป้ายบอกชัดเจน ใจเย็นๆ จะไม่หลง / ลิฟต์ / ชานชาลาสถานี Cité) ส่วนบัตรโดยสาร คุณแขจัดการเตรียมบัตรไว้ให้แล้วคุณแก้วเลยประหยัดไป 5 ยูโร โดยคุณแก้วเติมเงินไป 15 ยูโรแบบไม่จำกัดเที่ยวในหนึ่งสัปดาห์ บุญหัวที่เริ่มเที่ยววันจันทร์พอดี เพราะการเติมเงินรายสัปดาห์ที่นี่เขาไม่นับเป็นวันเจ็ดวันนะ เขาจะตัดทุกวันอาทิตย์ ฉะนั้นเติมวันจันทร์แบบนี้คุ้มสุด และคุณแก้วว่าเติมแบบไม่จำกัดเที่ยวนี่ดีแล้ว เผื่อพลัดเผื่อลงเผื่องงเผื่องวยจะได้ไม่ต้องมาตีอกชกหัวเสียค่ารถใหม่หลายรอบ (เจอแอเรียลที่ทางออกสถานี Trocadéro)…

Paris Day 1: A Neighbourhood Tour

Day 1 ผละจากอ้อมแขนที่ช่วยยกกระเป๋าของโชเฟอร์ลีมูซีน คุณแก้วก็กดรหัสประตูที่เจ้าของห้องพักให้ไว้ xxxxxx ติ๊ด เปิดประตูเข้าไปก็เจอโถง เดินเข้าไปมีลิฟต์อยู่ขวามือ มีปุ่มเดียวใสๆ กดยังไงก็ถูก แต่กดแล้วไม่แน่ใจว่าถูกไหมเพราะ ครึกกกกกกกกก กังกัง ครึกกกกกกกก กังกัง นี่คือสัทพจน์เสียงลิฟต์ค่ะ น่ากลัวมาก ครั้งแรกนี้คุณแก้วก็ไม่รู้ว่าเราจะดึงประตูลิฟต์เมื่อไรดี คือประตูมันมีที่ดึงอะ ไม่รู้ว่าลิฟต์ลงมาถึงหรือยัง ครึกกกกกก กังกัง อะลองดึงดู ดึงไม่ออก ครึกกกกกก กังกัง สักพักเสียงเงียบ น่าจจะถึงละ เปิดเนอะ (ภาพถ่ายจากหน้าห้อง ออกจากลิฟต์แล้วเลี้ยวขวาคือห้อง มองย้อนไปอีกทางคงเป็นเจ้าของป้ายที่แปะในลิฟต์ ความเก๋คือพรมแดงที่ปูประหนึ่งเป็นเวทีอะคาเดมี่แฟนเทเชีย) ลิฟต์ตึกนี้ก็มีขนาดประมาณ 1×0.8 เมตร ป้ายกำกับบอกว่าจุได้ 3 คน โอ๊ย กลัวใจมาก กลัวว่าขึ้นคนเดียวแล้วจะร้อง ถึงชั้นบน ประตูด้านในลิฟต์เลื่อนไปข้างๆ มีประตูอีกบานที่คุณแก้วต้องผละออกไปเอง ประตูนั้นมีป้ายแปะว่า “ตึกนี้ห้าม Airbnb” เอาล้าวววววววว คุณแก้วออกจากลิฟต์หันไปก็เจอห้องพัก ก๊อกๆๆ คุณอลิสาเจ้าของห้องมาเปิด พร้อมแนะนำส่วนต่างๆ ของที่พัก ห้องพักนี้คุณแก้วจองผ่าน Airbnb โดยมีเพื่อนที่ปารีสช่วยดูให้ว่าเป็นย่านที่โอเคปลอดภัยน่าอยู่ไหม ห้องนี้อยู่ติดกับNotre Dame ชนิดที่เห็นวิหารจากห้องพักเลย ซึ่งมาเห็นด้วยตาก็ตรงตามโฆษณาที่คุณอลิสาเขียนไว้ คุณแก้วจะนอนบนโซฟาเบดในห้องรับแขก ห้องรับแขกทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ของคุณแก้ว เราสองคนจะแชร์ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ทั้งสองห้องนั้นอยู่คนละที่ คุณแก้วไม่ชินเหมือนกันนะ อีกส่วนที่แชร์ก็คือห้องครัว ซึ่งคุณแก้วคิดไว้แล้วว่าคงใช้แค่ไปดื่มน้ำ ปิดท้ายด้วยการมอบรหัสไวไฟให้กัน จากนั้นคุณอลิสาก็แยกตัวเข้าห้องนอนหล่อนไป (เห็น Notre…

Biz Class Emirates Airline คุณค่าที่คุณแก้วคู่ควร

มีคนเคยบอกว่าจุดหมายปลายทางเป็นสิ่งสำคัญ แต่สำหรับฉัน คุณแก้ว เรื่องราวระหว่างทางก็สำคัญไม่แพ้กัน ในครั้งนี้ คุณแก้วจึงเลือกเดินทางในชั้นธุรกิจ พอ! ปลอม! เดินทางในชั้นธุรกิจน่ะจริง เรื่องราวระหว่างทางก็สำคัญน่ะก็จริง แต่ที่คุณแก้วเลือกบินบิซอะเพราะสังขาร ใช่ เพราะสังขารและสรีระศาสตร์ของคุณแก้ว ก่อนหน้านี้ที่เคยบินไปที่ต่างๆ ทั้ง โรม โตเกียว โซล เซี่ยงไฮ้ ลอสแองเจลิส และนิวยอร์ก คุณแก้วก็บินอีโค่ทั้งนั้น ไม่เคยจะคิดเลือกบิซเลย จนกระทั่งการไปนิวยอร์กรอบหลังสุดเมื่อปีใหม่ 2017 คุณแก้วก็ซื้อตั๋วอีโค่เหมือนเดิม ก่อนออกเดินทางก็มีอีเมลจากสายการบินส่งมาว่านี่ๆ มิสแกล๊ส ไอมีโปรโมชั่นอัพเกรดเป็นบิซนะ ยูสนไหม โนค่ะ คุณแก้วโนแคร์โนสน นั่งอีโค่ไป ซึ่งแบบ โอ๊ย ในวัยเลยสามสิบยังแจ๋วนี้ การนั่งเครื่องบินเป็นเวลาเกือบวัน แบบมีคนข้างกายที่ไม่ใช่ผัว ตัวก็ล้นมาเบียด ไม่สิ ตัวคุณแก้วนี่แหละที่ล้นเบาะไปเบียดเขา เข่าก็ต้องคอยยันไม่ให้อีผู้โดยด้านหน้าเอนเบาะลงเยอะ แถมยังต้องหันไปส่งสายตาอาฆาตกับอีผู้โดยเด็กที่กระทุ้งหลังตลอดอีก พอ พอกันที  ขากลับถ้ามีอีเมลโปรมาอีก จะอัพเกรด และก็มีอีเมลโปรโมชั่นมา แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไปร่วมเดือนในอเมริกา คุณแก้วก็ลืมความเจ็บช้ำใจนั้นเสียสิ้นเลยไม่ซื้อ และแน่นอนว่าก็ทุกข์ทรมานตลอดเส้นทางการบินกับกรุงเทพ คุณแก้วจึงขออธิษฐานใจวาจา ตั้งชื่อลูกของแม่ว่าดาว โอ๊ยยยยย ตั้งใจไว้เลยว่าทริปนิวยอร์กครั้งต่อไปในปี…

ถูกและดี ตั๋วละครแบบนี้มีที่ Broadway นะ

จริงๆ แล้วเป็นคนเฉยๆ (ปนมองบนนิดๆ) กับบทความแนว เที่ยวอย่างไรใช้เงินน้อยที่สุด ก็แหม จะไปเที่ยวนะ ไม่ได้แข่งทีวีแชมเปี้ยน ไปให้มีความสุขไม่สนุกกว่าหรอ ทำไมจะต้องไปแบบเขียมๆ จะกินก็ไม่ได้กิน จะนอนก็ไม่ได้นอน (ใครวะคะ เขาก็ได้กินได้นอนกันทั้งนั้นแหละ) พอถึงคราวตัวเองไปบ้าง ไปไหน ไปนิวยอร์ก ไปทำไม ไปดูละครบรอดเวย์ ….. เป้าหมายชัดเจนมาก ว่าแล้วก็เข้าไปสำรวจราคาตั๋วในหน้าเวบ คุณพระ! เรื่องนึงไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญ ถามว่าแพงไหม ราคามันก็ไม่ได้ต่างจากราคาตั๋วละครเวทีบ้านเราหรอกนะ แต่นี่ ไปทีนึงไม่ได้กะจะดูสองเรื่องไง จะดูเป็นสิบ เอาไงดี แล้วฟ้าก็ประทานทางสว่างมาให้ เมื่อน้องที่รักแนะนำให้รู้จักกับเวบ http://www.broadwayforbrokepeople.com แปลเป็นไทยอย่างสวยงามว่า บรอดเวย์สำหรับคนถังแตก อย่าอายค่ะอย่าอาย ด้านได้อายอด ในเวบนี้จะมีรายละเอียดของละครเพลงและละครพูดทั้งหมดที่แสดงอยู่ ณ ปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ ความเก๋คือ จะพ่วงด้วยรายละเอียด “ตั๋วถูก” ตั๋วถูก ที่ว่านี้แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ 1. Rush Ticket ตั๋วนี้จะขายวันต่อวันที่โรงละคร โดยจะเปิดขายตามเวลาที่โรงเปิดทำการคือ 10 โมง…

งับกระดาษงานปีใหม่ 2017 ณ ไทม์สแควร์ นิวยอร์ก

จะเยือนมหานครนิวยอร์กเป็นครั้งที่สองทั้งที แค่ดูละครคงไม่พิเศษพอ ต้องหากิจกรรมไฮไลท์ และกิจกรรมนั้นได้แก่ กิจกรรมงับกระดาษงานปีใหม่ 2017 ณ ไทม์สแควร์ วู้หู้ววว   เอาภาพตอนจบก่อนนะ เหมือนฝันบัณฑิตสกุลมาก กระดาษปลิวเป็นประกายระยิบระยับวับวาว ราวจะกล่าวอวยพรให้ปี 2017 นี้เป็นปีที่เราจะเปล่งประกายเรืองรองสวยงาม   30 ธันวาคม เราก็ไปเดินสำรวจสถานที่ สุดท้ายเลือกว่าเราจะมายืนแถวๆ หน้าดิสนีย์สโตร์ เพราะเห็นลูกบอลชัดเจน (ลูกบอลจะอยู่ตรงยอดตึก “วัน” ที่มีจอโฆษณาโตชิบานำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต) และด้านขวาของเราจะเป็นเวทีการแสดง เลิศ จุดนี้คือเลิศ   เริ่มหาข้อมูลตั้งแต่อยู่เมืองไทย พบว่า ต้องไปตั้งแต่บ่าย/ บ่ายสามเต็ม/ ปิดถนน ปิดสถานีรถไฟบริเวณนั้น ควรนั่งรถไฟไปลงทางเหนือแล้วเดินย้อนลงมา/ ไม่มีอาหารหรือน้ำขาย/ ไม่มีห้องน้ำ/ เข้าไปแล้ว ถ้าจะออกมา จะไม่ได้กลับเข้าไปอีก และต่อไปนี้คือการเดินทางของเรา ดาว คือตึกวัน เรานั่งรถไฟสาย BDFM (สายไหนก็ได้ สักสายแหละ จำไม่ได้) มาลงที่สถานี Rokkefeller ที่จุด A เมื่อโผล่ขึ้นมาได้ก็เห็นคุณตำรวจเริ่มตั้งแผงกั้นแล้ว เดินเข้าไปทาง 48st…

SULLY

แม้ว่าจะมีคำตอบตลอดทั้งจากคนอื่นและจากในใจของตัวเองว่า งานที่ทำอยู่ในปัจจุบันนั้นดีแล้วเหมาะสมแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกขึ้นบ้างว่า ชีวิตตอนนี้จะเป็นอย่างไรถ้าตอนนั้นเลือกที่จะเป็น “นักบิน” …………. ไปดู SULLY มา (หนังไม่น่าจะมีอะไรโดนสปอยล์ แต่ก็เตือนไว้เผื่อนะ อาจมีสปอยล์นะยู) เดี๋ยวนี้เวลาดูหนังหรือละคร นอกจากจะดูเอาเรื่องเอารสเอาความสนุกแล้ว ก้องมักดูไปคิดไปว่า เอ๊ะ ถ้าเราต้องแสดงฉากนี้จะทำยังไงนะ หรือ ตอนที่นักแสดงคนนี้เขาแสดงฉากนี้เขาจะรู้สึกยังไงนะ วินาทีแรกที่เห็นพี่ทอม (ขออนุญาตเรียกแบบนี้นะ สนิทกัน ….. หรา) พี่คะ พี่จะ 60 แล้ว แต่พี่ยังเป็นพระเอก ในหนังที่พี่เป็นตัวเอกคนเดียว แล้วพี่ได้ออสการ์มากี่ตัว แล้วแต่ละเรื่องที่พี่เล่นนี่แบบโห แล้วมาเรื่องนี้หน้าพี่แบบนี้แววตาแบบนี้ พี่ใช่คนเดียวกับที่เล่น The Terminal หรือเปล่าวะคะนี่ (The Terminal เป็นผลงานพี่ทอมที่ก้องประทับใจที่สุด) พี่ทอมรับบทเป็นกัปตันซัลลี่ที่นำเครื่องลงจอดฉุกเฉินในแม่น้ำฮัดสันเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้อง ซัลลี่โดนสอบสวน ซึ่งมีคำถามที่ซักถึงความพร้อมที่จะทำการบิน ซัลลี่ตอบว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ผู้ถามก็รับคำตอบไปแบบแกนๆ ถ้ามองถึงซัลลี่ ณ วินาทีนั้น กับบทบาทนักบินก็อาจจะสงสัยแบบนั้นได้ แต่ถ้ามองถึงพี่ทอม ณ วินาทีนั้น กับบทบาทนักแสดง คงไม่มีใครสงสัยถึงความพร้อมที่จะทำการแสดง พี่ทอมทำได้…

ต้องรอด

มีเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตที่คงจะฝังใจไปอีกนาน ปลายปี 2552 ออกจากงานประจำมาได้ห้าเดือน ขณะนั้นก็มีงานไม่ประจำทำอยู่ แต่พอเป็นคำว่าไม่ประจำ ก็คือมีให้ทำก็มีรายได้ ไม่มีให้ทำก็ไม่มีรายได้ เลิกขอเงินจากที่บ้านแล้ว (แต่ก็ยังไม่มีจะส่งให้) ทำบัญชีรายรับรายจ่ายสม่ำเสมอ ใกล้สิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ ธันวาคมเมื่อไรจะผ่านไป จำวันที่แน่ชัดไม่ได้ สมมติก็แล้วกันว่า วันที่ 28 จะได้เงินจากงานที่ทำ พอสักวันที่ 20 รู้สึกจะเหลือเงินไม่ถึงพัน ตอนนั้นมีบัญชีเงินฝากอยู่สองเล่ม พันนึงนี่คือรวมทั้งสองเล่มแล้ว แม่ถามเสมอว่ามีเงินใช้ไหม ตอบแม่ทุกครั้งว่ายังมี ไม่ต้องห่วง ไว้ถ้าไม่มีจริงๆ จะยืมแม่แหละ ไม่ไปกู้นอกระบบให้เสียดอกหรอก เราต้องรอด ต้องผ่านไปได้ และต้องผ่านไปได้ด้วยตัวเราเอง ครั้งนี้ก็เช่นกัน เงินไม่ถึงพันกับเวลาแปดวัน วันละ 125 บาท ต้องวางแผนว่าจะอยู่อย่างไร ยังมีค่าเดินทางไปทำงานและอาหารสามมื้อ เดินทางก็รถเมล์เท่านั้น รถฟรียิ่งดี อาหารก็ไม่พ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ที่ถ้าคิดจริงๆ อาจแพงกว่าอาหารปกติเพราะกินซองเดียวไม่เคยอิ่ม) จนวันที่ 27 กดเงินจนตัวเลขในบัญชีทั้งสองเหลือเพียงสองหลัก กดไม่ได้อีกแล้ว แต่อีกวันเดียวเอง จะยืมเงินใครก็ได้ บอกแม่แม่ก็โอนมาให้ได้ทันที หรือจะขอนายจ้างให้โอนมาก่อนก็น่าจะได้ แต่ตอนนั้นมีอินเนอร์ประหนึ่งนางเอก “คุณหญิงนอกทำเนียบ”…

ชีวิตในเพชรบุรีซอย 5

ในวัยสามสิบต้นๆ นี้ หากแบ่งชีวิตออกเป็นช่วงใหญ่ๆ จะได้สองช่วง คือช่วงที่อยู่ต่างจังหวัดบ้านเกิด และช่วงที่มาอยู่เมืองกรุงใจก็มุ่งแต่อยากจะดัง หยุด ไม่เกี่ยว มาเรียนหนังสือ ย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนขึ้น ม.5 เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2543 และรู้หมือไร่ เอ๊ย รู้หรือไม่ ว่าย้ายออกจากที่นี่เดือนธันวาคมปี 2558 คืออยู่ที่นี่มากว่า 15 ปี …. ที่นี่ ที่ “เพชรบุรีซอย 5” เพื่อน พี่ น้อง หลายคนเวียนว่ายตายเกิด (อันแปลว่าย้ายมาแล้วย้ายไป) พอรู้ว่ายังอยู่ที่นี่ก็จะตกใจว่า “ยังอยู่อีกรึ” คือก็อยู่ตอนม.ปลายเพราะใกล้โรงเรียน ปริญญาตรีก็อยู่ต่อเพราะใกล้มหาวิทยาลัย ทำงานประจำสองที่ ที่แรกก็อยู่หน้าปากซอย (อีกฝั่ง หูย ซอยเขาเก๋เข้าออกได้หลายทาง) อีกที่ก็อยู่ตึกแถวสยาม พอออกมารับจ้างอิสระก็เลยไม่รู้จะเลือกย้ายไปไหน สิบห้าปี ความทรงจำเพียบ แต่ ณ จุดนี้อยากจะขอแนะนำว่า อันตัวเราเองที่ดำผุดดำว่ายอยู่ในซอยนี้นั้น เติบโตมากับร้านไหนกันบ้าง นี่ถือว่าเป็นรีวิวร้านอาหารหรอ ไม่เชิงหรอก ซอยนี้อาหารแน่นมาก มีตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอย แต่เราขอนำเสนอร้านที่กินบ่อย กินจริง…

ฟ้าอยากเป็นแอร์ ตอนที่ 2

ฟ้ายังอยากเป็นแอร์ค่ะ หลังจากที่ฟ้าพลาดหวังในการสมัครสายการบินนี้ในครั้งที่สอง ฟ้าก็ไปลงเรียนในสถาบันติวสอบแอร์เลยค่ะ ค่าเรียนมากกว่าเงินเดือนฟ้าด้วยซ้ำ แต่ฟ้าทุ่มค่ะ ฟ้าอยากได้คำแนะนำแบบจริงจังว่าฟ้าควรต้องปรับปรุงตัวตรงไหน และการเรียนที่นี้ทำให้ฟ้าเสียเซลฟ์อยู่เหมือนกันเมื่อฟ้าโดนวิจารณ์ว่า “ฟ้ามั่นใจเกินไป” ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดีนี่ค่ะ เอาจริงๆ ฟ้าไม่ใช่คนมั่นใจชนิดที่ยืนอยู่ป้ายรถเมล์แล้วจะตะโกนเรียกเพื่อนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนหรอก เพียงแต่ถ้าฟ้าต้องทำอะไรที่ถูกต้องและฟ้ารู้ว่าฟ้าทำได้ ทำไมจะต้องไม่มั่นใจล่ะ จริงไหมคะ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ ฟ้าก็น้อมรับคำวิจารณ์นั้นมาปรับปรุงตัวเอง ฟ้าควบคุมตัวเองให้พูดช้าลง ปรับโทนเสียง ไปจนถึงฝึกแอ๊บเบาๆ ให้คิดนิดนึงก่อนตอบคำถาม (ปกติฟ้าเป็นระบบถามปุ๊บตอบปั๊บค่ะ)  ที่ฟ้าประทับใจที่สุดคือการเข้าคลาสติวสัมภาษณ์กับอาจารย์ อ. (ฟ้าขออนุญาตไม่ระบุชื่อท่านนะคะ กลัวจะถูกมองว่าเป็นเนื้อที่โฆษณา) คลาสนี้ฝึกถามตอบกันเป็นภาษาอังกฤษ ความเก๋คือ อาจารย์จะให้เราตอบของเราก่อนเอง แล้วท่านค่อยแก้จากที่เราตอบมา เพราะฉะนั้นคำตอบของนักเรียนแต่ละคนก็จะแตกต่างกัน ฟ้าเองก็มีคำตอบในแบบของฟ้า ซึ่งเป็นคำตอบที่ได้รับการขัดเกลาให้ดีขึ้นอย่างมาก ฟ้าพร้อมแล้วค่ะ บุญหัวของฟ้าจริงๆ ที่สายการบินนี้เปิดรับสมัครอีกครั้งก่อนที่ฟ้าจะอายุเกินพอดี เอกสารพร้อม เสื้อผ้าหน้าผมพร้อม ความมั่นใจ(ที่ฝึกควบคุม)พร้อม ทุกอย่างพร้อม และฟ้ามีคิวยื่นใบสมัครในช่วงบ่ายวันแรกของการรับสมัคร ระหว่างรอ ฟ้านั่งคุยกับเพื่อนใหม่คนหนึ่ง ผู้ชายค่ะ นิดนึง คือฟ้าก็สวย สวยจริงๆ นะคะ ต่อค่ะต่อ ฟ้าว่าเขาเหมาะสมมาก สูง หล่อ พูดจาดี ยิ้มก็สวย เขาเข้าไปยื่นใบสมัครก่อนฟ้า เข้าไปสักพักก็เห็นเขาเดินคอตกออกมาว่าไม่ผ่านเพราะน้ำหนักเกิน…

ฟ้าอยากเป็นแอร์ ตอนที่ 1

ฟ้าอยากเป็นแอร์ค่ะ ฟ้าไม่ได้อยากเป็นมาตั้งแต่เด็กหรอกนะคะ เพิ่งมาอยากเป็นตอนเรียนมหาวิทยาลัย พอเรียนจบ ฟ้าก็เลยจะเป็นแอร์ค่ะ ฟ้ามีสายการบินในใจ โชคดีของฟ้าที่เรียนจบมีนาสายการบินนี้ก็เปิดรับช่วงปลายปีเดียวกันเลย ขั้นตอนการสมัครคร่าวๆ ก็คือ 1. ยื่นใบสมัครและพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น 2. ทดสอบข้อเขียน 3. สัมภาษณ์ เรื่องใบสมัครนั้นไม่ใช่ปัญหาของฟ้า คะแนนภาษาอังกฤษที่หลายคนกังวลฟ้าก็มีกอดไว้แบบไม่น้อยหน้าใคร ฟ้าพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า เอกสารครบ ส่วนสูงผ่าน น้ำหนักตามเกณฑ์ ผ่านเข้าไปพบกับกรรมการในรอบแรก แล้วกลับบ้าน รอฟังผล ฟ้าตกรอบ ฟ้าก็นั่งนึกว่าทำไม อะไรทำให้ฟ้าไม่ผ่าน คำตอบคือเยอะมากค่ะ เสื้อผ้าที่ไม่พอดีตัว หน้าผมที่ไม่ลงตัว คือฟ้ามีเอกสาร มีคะแนน มีผลการเรียน มีใจ แต่นั่นไม่พอสำหรับงานนี้ ฟ้ายอมรับ แต่ฟ้าไม่ยอมแพ้ ไม่กี่ปีต่อมาสายการบินนี้ก็เปิดรับอีกครั้ง ครั้งนี้ฟ้าทุ่มเททุ่มใจถวายวิญญาณกับการเตรียมตัว เสื้อผ้าหน้าผมตามแบบแผน เอกสารและคะแนนต่างๆ ครบถ้วน และฟ้าผ่านรอบแรก ฟ้าจะต้องสอบข้อเขียน ฟ้าก็เข้าไปอ่านตามเวบบอร์ด มีการแนะนำลักษณะข้อสอบไปจนถึงลักษณะการตอบที่ควรจะเป็น แต่ฟ้าคิดว่าฟ้ามีคุณลักษณะที่เหมาะสม ฟ้าจะเป็นตัวของตัวเอง ข้อสอบมีสามส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรก คือ แบบทดสอบบุคลิกภาพ ซึ่งเหมือนข้อสอบแนะแนวสมัยฟ้าเรียนมัธยมปลาย ส่วนที่สองเป็นข้อสอบความรู้ด้านต่างๆ เช่น…