กินรีสีรุ้ง : ออดิชั่น

อย่างที่เคยบอกว่าก้องมีฝันที่จะได้เล่นละครเวที และให้แคบลงอีกนิด หนึ่งในฝันแตกย่อยคือการได้เล่นละครเวทีของรัชดาลัย การออดิชั่นของรัชดาลัยจะแบ่งเป็นหลายรอบ รอบแรกจะเป็นการดูทักษะด้านการร้องและการเต้นเป็นหลัก ถ้าผ่านก็จะต้องรอออดิชั่นต่อในช่วงค่ำหรือวันรุ่งขึ้นกับทักษะที่ยากขึ้น และอาจมีการให้ทดสอบการแสดงในบทต่างๆด้วย ก้องเองก็ผ่านมาทุกรูปแบบ ทั้งแบบที่ผ่านไปรอบลึก ลึกๆ ลึกๆๆ ลึกที่สุด ดึกมาก ได้แน่ ยืนหน้ากระดานรอฟังประกาศผล นี่ฉันมาออดิชั่นละครเวทีหรือเดอะสตาร์ แต่นั่นล่ะ ไม่ได้ไปต่อ หรือแม้กระทั่งแบบ ตก ตั้งแต่รอบเต้น ช่วงต่อมาเริ่มตั้งสติได้ว่า เอ๊ะ บางเรื่องนั้นรอบแรกดูแค่ร้อง บางเรื่องดูแค่เต้น บางเรื่องดูคู่กัน อ๋อ นั่นก็เพราะความต้องการนักแสดงในแต่ละเรื่องนั้นไม่เหมือนกัน เมื่อคิดได้ก็บอกตัวเองว่าครั้งหน้าจะต้องทำการบ้านล่วงหน้าให้ดี และวันนั้นก็มาถึง ประกาศรับสมัครนักแสดงสมทบ La Cage Aux Folles แว่วๆนะชื่อนี้ ได้ยินมาบ้าง และรู้จักเพลง I am what I am (ซึ่งตอนนั้นก็ยังร้องไม่เป็น) เสิชเลย เปิดคอมท่องเวบ หาข้อมูล ดูคลิปของต่างประเทศที่เคยทำเรื่องนี้มา หวายหวาย มีแต่นางโชว์ชายทั้งนั้นเลย เข้าทาง เอาวะเอาเหวย ได้แน่เรางานนี้ และเมื่อถึงวันออดิชั่น คุณพระคุณเจ้า…

ออดิชั่น เอาดิฉัน

ฝันของก้องคือโลดเล่นอยู่ในแสงไฟบนเวที นับย้อนไปตั้งแต่เล่นละครรอบกองไฟเข้าค่ายลูกเสือตอน ป.5 อุ่ย นานไปเนอะ เลื่อนมาหน่อยดีกว่า เริ่มแสดงละครเวทีจริงจังชนิดขายบัตรเข้าชมก็ตอนเรียนเตรียมอุดมศึกษาชั้น ม.5 เข้านิเทศศาสตร์จุฬาฯก็ได้แสดงละครเวทีคณะตลอดสี่ปี ความฮึกเหิมมีเต็มหัวใจ “นักแสดงละครเวที” อาชีพนี้นี่ล่ะที่จะคว้าไว้ให้จงได้ ค่ายละครเวทีใหญ่ที่ก้องเล็งตอนนั้นก็คือ เอ็กแซค (หรือที่แตกมาเป็นซีเนริโอในปัจจุบัน) ได้ชมผลงานค่ายนี้ครั้งแรกเรื่อง บัลลังก์เมฆเมื่อปี 2544 แล้วมัน แว้บ ว้าว โว้ว ใช่เลย โดนใจ เป๊ะทุกอย่าง อยากร่วมแสดงในละครแบบนี้ ปี 2547 ก้าวลงสนามชิงชัยด้วยใจมุ่งมั่นกับการออดิชั่นละครเวทีเรื่อง บางกอก 2485 มั่นมาก ได้แน่ ผมคือ ได้รับสิทธิ์ในการกลับไปศึกษาต่อ เชิญค่ะ แต่ถ้าเรายังอยาก เราก็ต้องยังสู้ ก้องก็เข้าออดิชั่นมาเรื่อยๆ เท่าที่จำได้คือ ทวิภพ(แคสพี่แพท/ได้ชัวร์เพราะหน้าไทย) ฟ้าจรดทราย(ได้ชัวร์เพราะหน้าแขก) ลมหายใจ(ได้ชัวร์เพราะร้องดี/เข้าข้างตัวเอง) ทวิภพ(แคสพี่นัท/ได้ชัวร์เพราะเคยดู/ใช่เหรอ) กินรีสีรุ้ง(ได้ชัวร์เพราะเรื่องตรง) หงส์เหนือมังกร(ได้ชัวร์เพราะ…) มิสไซ่ง่อน(ได้ชัวร์เพราะ…) ลำซิ่งซิงเกอร์(ได้ชัวร์เพราะ…) และจากการออดิชั่นทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์นั้น ผ่าน จนได้แสดงทั้งหมด ดังนี้ กินรีสีรุ้ง … เรื่องเดียว…

ภัยร้ายโมเดลลิ่งปลอม

“เดินสยามอยู่เฉยๆก็มีพี่คนหนึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นโมเดลลิ่ง ให้นามบัตรมาแล้วนัดเข้าไปถ่ายรูป ทำอย่างไรดีคะ” ตอบง่ายมากครับ ถ้าไม่สนใจก็โยนนามบัตรทิ้งไปได้เลย แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นคงไม่นั่งอ่านบทความนี้หรอกเนอะ เมื่อสนใจก็อย่าชะล่าใจครับ นามบัตรที่ได้มาต้องมีชื่อนามสกุล เบอร์ติดต่อ สถานที่ตั้งสำนักงาน อีเมล์ เวบไซต์ แนะนำว่าให้โทรศัพท์เข้าไปสอบถามดูที่เบอร์ 02 เช็คว่าเบอร์จริงหรือไม่ เข้าเวบไซต์ดูรายละเอียดต่างๆ แล้วพิจารณาความน่าเชื่อถือ ถ้าพอไหว มีแววว่าจริง อ่านต่อ (แต่ประเภทมาลอยๆ แจกเบอร์ ขอเบอร์เฉยๆ แล้วนัดให้ไปเจอเลย ระวัง) เมื่อคิดแล้วว่าน่าจะเป็นโมเดลลิ่งจริงๆ ก็นัดหมายเข้าไปทำประวัติและถ่ายภาพ ซึ่งขนไปเถอะครับ คุณพ่อคุณแม่คุณแฟนคุณเพื่อน ไม่ต้องเกรงใจว่าเดี๋ยวพี่โมจะคิดว่าเราไม่ไว้ใจเขา คือเราหาคนไปเป็นเพื่อนเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ไม่ต้องขนกันไปทั้งหมู่บ้านอันนั้นเกินไป เมื่อไปถึงก็สังเกตบรรยากาศ ที่ที่ดีกับที่ที่ไม่ดีฮวงจุ้ยมันต่างกันครับ เชื่อในสัญชาติญาณตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถอยู่กับเราได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนถ่ายรูป ประวัติต่างๆกรอกไปตามความจริง ความสามารถ งานที่รับได้ และเงื่อนไขต่างๆกรอกตามจริง (เช่น สามารถเปลี่ยนทรงผมสีผมได้หรือไม่ สามารถเต้นรำได้หรือไม่) มีเทรนเนอร์ที่ยิมมาปรึกษาว่าไปถ่ายรูปที่โมเดลลิ่งแห่งหนึ่งแล้วถูกถ่ายแบบถอดเสื้อถอดกางเกงเหลือแต่กางเกงชั้นใน โดนหลอกหรือไม่ อันนี้ต้องพิจารณาเป็นกรณีครับ กรณีพี่คนนี้ไม่น่าจะโดนหลอกเพราะคาดว่างานที่เหมาะกับพี่เขาอาจรวมไปถึงงานแฟชั่นชุดว่ายน้ำ เป็นธรรมดาที่โมจะขอดูความสมบูรณ์ของรูปร่าง อยู่ที่การพูดคุยและตกลงกัน แต่อย่าได้กังวลนะครับ ถ้าเขาจะให้เราถอดแต่เราจะไม่ถอด โมบังคับเราไม่ได้ครับ ส่วนถ้าเราเป็นเด็กใสๆธรรมดาประเภทเหมาะกับงานขนมขบเคี้ยวทั่วไปแล้วถูกบังคับให้ถอด แนะนำให้ถอยครับ สำคัญที่สุดคือ…

โมเดลลิ่งคืออะไร

เมื่อจะมีงานสักชิ้น ขอสมมติว่าเป็นละครโทรทัศน์ ผู้จัดก็ต้องจัดหานักแสดงมารับบทต่างๆ ผู้จัดสามารถประกาศออกไปในวงกว้างว่า “รับสมัครนักแสดง” พร้อมรายละเอียดของคาแรกเตอร์ต่างๆที่ต้องการได้ แต่ก็ต้องลุ้นว่าจะมีใครที่เหมาะสม ตรง ใช่ มาคัดเลือกหรือไม่ ดีไม่ดีอาจไม่มีใครทราบข่าวนี้เลยก็ได้ ทางที่มักใช้กันก็คือส่งข่าวนี้ให้กับ โมเดลลิ่ง โมเดลลิ่งคือศูนย์รวมผู้คนที่มีความต้องการจะเป็นนักแสดง นักร้อง พิธีกร นางแบบ ฯลฯ ก้องเองก็เคยทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายคัดเลือกนักแสดงสำหรับงานโฆษณาชิ้นหนึ่ง หน้าที่แรกก็คือโทรศัพท์หาโมต่างๆ เพื่อขอ “วัยรุ่นชาย 20-25 ปีหนึ่งคน วัยรุ่นชาย 15-18 ปีหนึ่งคน วัยรุ่นหญิง 15-18 ปีสองคน ทั้งสี่คนต้องใส่ชุดว่ายน้ำได้” เพียงเท่านี้บรรดาโมก็ส่งรูปถ่ายพร้อมประวัติของน้องๆที่ “เข้าข่าย” มาให้เลือก เพื่อเรียกมาคัดตัวเป็นลำดับต่อไป เป็นการกรองคนรอบแรก แถมมั่นใจได้ว่าทุกคนที่มานั้นผ่านเงื่อนไขใส่ชุดว่ายน้ำได้ (ถ้าไม่ โมโดนนะ ฮึ่ม) อย่างที่บอกว่าโมเดลลิ่งคือศูนย์รวมผู้คน แต่หยุด อย่าได้คิดว่าจะมีแต่คนรูปร่างหน้าตาดีแนวพระเอกนางเอกเท่านั้น ในหนังหรือละครต่างๆ บทประเภท ผู้ร้าย แม่ค้า สาวใช้ คนสวน กว่า 50% ก็มาจากโมกันทั้งนั้น บางที่อาจมีคนในสังกัดหลากหลายให้ครบทุกความต้องการของผู้จัด ในขณะที่บางที่จะเฉพาะเจาะจง เช่น…

เส้นสายกับการเข้าสู่วงการบันเทิง

สังคมไทยยังเป็นสังคมอุปถัมภ์ฉันใด วงการบันเทิงไทยก็ยังเป็นวงการอุปถัมภ์ฉันนั้น ตลอดชีวิตในวงการบันเทิงที่ผ่านมาของก้อง แหมใช้คำซะเหมือนยาวนานราว 40 ปี บทบาทที่ผู้ชมยังคงติดตราตรึงใจ ได้แก่ พี่ตือโมเดลลิ่ง จากละครโทรทัศน์เนื้อคู่ประตูถัดไป ฮอตฮิตถึงขนาดมีเพจพี่ตือโมเดลลิ่ง และมีคนมาขอสมัครเข้าสังกัดจริงๆ แล้วชีวิตการเป็นพี่ตือโมเดลลิ่งนั้นเริ่มต้นได้อย่างไร ช่วงกลางปี 2551 ได้รับการติดต่อจากรุ่นพี่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่ารุ่นพี่กลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันสร้างละครโทรทัศน์ขึ้น และมีตัวละครหนึ่งอยากให้ก้องแสดง ไม่ถาม ไม่มีข้อแม้ รับเลย พี่ตือโมเดลลิ่ง ละครชุดนี้ทีมสร้างล้วนเป็นรุ่นพี่ในคณะทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ ผู้ผลิต ทีมเขียนบท ไปจนถึงฝ่ายเสื้อผ้า อ่านมาถึงตรงนี้ก็ไม่ได้จะให้ใครถอดใจว่าอ้าว ฉันไม่ได้เรียนคณะนี้ ก็คือหมดโอกาสทำงานในวงการเลยใช่ไหม คำตอบมีชัดเจนว่า ไม่ใช่ ก้องเองเลือกเรียนคณะนี้ก็ไม่ได้หวังว่าจะเข้ามาเพื่อหาเส้นสายในการเข้าสู่วงการบันเทิง (แต่ใครจะมีจุดประสงค์เช่นนั้นก็ไม่ผิดนะ) เพียงจะบอกว่า เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนรอบกายจะนำพาโอกาสใดเข้ามาในชีวิตของเราเมื่อไร และโปรดอย่าต่อว่าตำหนิระบบเส้นสาย ลองนึกกันดูตามจริง หากเราต้องทำงานสักชิ้น และต้องการแรงงานมาช่วยเหลือ เริ่มต้นเราก็มองหาจากคนรู้จักใกล้ตัวกันทั้งนั้น แล้วถ้าไม่มีคนรู้จัก ไม่มีเส้นสายเลย จะทำเช่นไร ติดตามกันต่อไปครับ เรื่องราวในวงการบันเทิงยังมีอีกเยอะ …

วิมานมะพร้าว

วิมานมะพร้าว รับบท บี ออกอากาศ 12 พฤศจิกายน 2556 – 7 มกราคม 2557 ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 Wiman Mapraw as Bee November 12, 2013 – January 7, 2014 Channel 7 Thailand

ดาวเกี้ยวเดือน

ดาวเกี้ยวเดือน รับบท เจ๊พีช ออกอากาศ 29 สิงหาคม – 3 ตุลาคม 2556 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 Daw Kiew Duern as Peach August 29 – October 3, 2013 Channel 3 Thailand

แรงเงา

แรงเงา รับบท นักรบ ออกอากาศ 1 ตุลาคม – 4 ธันวาคม 2555 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 Raeng Ngaw as Nakrob October 1 – December 4, 2012 Channel 3 Thailand