วันที่ 4 ในปารีส วันนี้เราจะหรูหราหมาเห่ากันมาก แผนที่วางไว้คือ เช้าไปแวร์ซายส์ บ่ายไปลูฟ ค่ำไปมูแลงรูจ โดยทางเราได้ซื้อตั๋วของทั้งสามที่ทางออนไลน์เรียบร้อยที่ราคา 20 17 และ 183 ยูโร โดยลำดับ (บรรยากาศหน้านอตเธอดามยามเช้าที่คนน้อยถึงน้อยมาก) เจ็ดโมงครึ่ง คุณแก้วเริ่มออกเดินทางไปขึ้นรถไฟ โชคดีเหลือเกินที่ได้เดินผ่านวิหารนอตเธอดามตอนนี้ เพราะคือโล่ง สงบ นั่งรถไฟสาย A มาลงสถานี Versailler Château Rive Gauche ตรงนี้ทีแรกเห็นมี Versailles Chantiers เกือบจะไปแล้ว แต่คนละสถานีกัน (แผนที่สถานี / รถไฟสองชั้นในปารีส / เดินตามกันไปยังไงก็ถูก) พอออกจากรถไฟแล้วก็ไม่ต้องกลัวหลงค่ะ (แต่วันนั้นก็กลัว ถึงกับต้องเปิดแผนที่ในมือถือเดิน) คือเช้าอยู่คนไม่เยอะมาก แต่ในหมู่คนที่ไม่เยอะมากนั้นคุณแก้วดูออกได้ไม่ยากเลยว่าใครเป็นนักท่องเที่ยวบ้าง ก็ตามๆ กันไปจน วะ วะ วะ ว้าววววววว เวิ้งแวร์ซายส์ค่ะ ต้องมีตั๋วในการเข้าชมพระราชวังนะคะ มาซื้อที่นี่ก็ได้ คุณแก้วซื้อออนไลน์ไว้แล้วรอบแรก 9 โมง ตอนไปถึงนี่เพิ่งแปดโมงครึ่ง แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะรอแบบไม่มีอะไรทำ ต้อง ถ่าย รูป ครั้นจะเซลฟี่ก็ไม่ใช่เรื่อง เอาวะ ก็ต้องสบตา สบตา และสบตา จนได้นักท่องเที่ยวใจดีถ่ายรูปให้…
Author: kongmusical
Paris Day 3 : Paris Disneyland
และก็มาถึงวันนี้ วันที่เราทุกคนต้องร่วมร้องเพลง “วันนี้….ที่รอคอย” นี่คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของการมาเยือนแพรีสค่ะ ใช่แล้ว นั่นคือ ปารีสดิสนีย์แลนด์ ตู้วหูว สามารถกรี๊ดไปได้เรื่อยๆ จนจบรีวิวเลยยังได้อะค่ะ อะอะ มีเนื้อหากันหน่อยเนอะ เริ่มจากตั๋ว กรุณาซื้อและปริ๊นต์ออกมาให้ล่วงลุซะตั้งแต่อยู่ไทยค่ะ เข้าเวบหลักไปเลยอุ่นใจสุด ทางเราซื้อตั๋วแบบ 1 วัน 2 สวน อ่อ คืองี้ ที่ปารีสนางจะมีสองสวนนะคะ อยู่ติดกันนั่นแหละค่ะ และจากการศึกษาข้อมูลก่อนไปทุกคนพูดตรงกันว่า ทั้งสองสวนนี้สามารถเที่ยววันเดียวพอ ฉะนั้น ตั๋วแบบนี้เหมาะสม สามารถเข้าออกเข้าออกทั้งสองสวนกี่รอบก็ได้ในวันเดียวกัน สนนราคาตอนที่ซื้อคือ 78 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามวันและเทศกาล ชุดก็ต้องมี ไปดิสนีย์แลนด์ก็ต้องแต่งกายให้เกียรติสถานที่เนอะ ซึ่งคุณแก้วก็แบบต้องเงือกอะ ต้องแอเรียล ผลที่ออกมาก็ลูกผีลูกคนดังภาพ เริ่มจากได้กางเกงเงือกจาก mertailor สั่งจากอเมริการเลยนะคะโว้ย ต่อมาก็ไปได้เสื้อสีม่วงหรอยและผ้าพันคอสีแดงจาก h&m และ zara ซึ่งพอใส่รวมกันออกมาแล้วนั้น พูดเลยว่า ยินดีด้วยค่ะ คุณได้ไป…..ไปไหนก็ไปค่ะ (ชื่อภาพ : -อย่ากลัวฉัน) แต่ต้องใส่ หายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินออกจากบ้านไปขึ้นรถไฟค่ะ…
PARIS DAY 2: LANDMARKS
วันนี้จะได้เป็นนักท่องเที่ยวอย่างเต็มตัวเพราะคุณแขจะมาพาคุณแก้วเที่ยว คุณแขอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศสมาหลายปี หล่อนวางแผนเที่ยววันนี้ให้เสร็จสรรพ คุณแก้วส่งรายการสถานที่ที่อยากไปให้ประมาณ 10 ที่ คุณแข ตกใจ แล้วถามหนึ่งประโยคว่าอยากไปที่ไหนสุด อย่างนี้ไม่ยากหรอกตอบได้โดยไม่ต้องปรึกษาพี่ติ๊นา ที่แรกที่ต้องไป หอไอเฟล เดินจากที่พักไม่ถึงสิบนาทีคุณแก้วก็มาถึงสถานีรถไฟ Cité ซึ่งมีรถไฟสาย 4 สายเดียว รถไฟที่ปารีสก็ถือว่าทั่วถึงทั่วไทยไปทั่วเมือง ป้ายมีบอกชัดเจนไม่หลงแน่นอน เข้าไปในสถานีคุณแก้วก็เห็นว่าต้องลงลิฟต์ไปที่ชานชาลา (นึกภาพลิฟต์ส่งของใหญ่ๆ) ซึ่งนั่น ลิฟต์กำลังจะปิด แต่ด้วยใจที่ทะนงคุณแก้วเลยไม่วิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงทำแล้ว เพราะว่าลิฟต์นี้เป็นระบบอัตโนมัติ เมื่อเปิดแล้วนางจะรอ 30 วินาทีแล้วปิดแล้วไป ฉะนั้นไม่ต้องเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษคนด้านในที่ไม่กดให้ (ทุกสถานีมีป้ายบอกชัดเจน ใจเย็นๆ จะไม่หลง / ลิฟต์ / ชานชาลาสถานี Cité) ส่วนบัตรโดยสาร คุณแขจัดการเตรียมบัตรไว้ให้แล้วคุณแก้วเลยประหยัดไป 5 ยูโร โดยคุณแก้วเติมเงินไป 15 ยูโรแบบไม่จำกัดเที่ยวในหนึ่งสัปดาห์ บุญหัวที่เริ่มเที่ยววันจันทร์พอดี เพราะการเติมเงินรายสัปดาห์ที่นี่เขาไม่นับเป็นวันเจ็ดวันนะ เขาจะตัดทุกวันอาทิตย์ ฉะนั้นเติมวันจันทร์แบบนี้คุ้มสุด และคุณแก้วว่าเติมแบบไม่จำกัดเที่ยวนี่ดีแล้ว เผื่อพลัดเผื่อลงเผื่องงเผื่องวยจะได้ไม่ต้องมาตีอกชกหัวเสียค่ารถใหม่หลายรอบ (เจอแอเรียลที่ทางออกสถานี Trocadéro)…
Paris Day 1: A Neighbourhood Tour
Day 1 ผละจากอ้อมแขนที่ช่วยยกกระเป๋าของโชเฟอร์ลีมูซีน คุณแก้วก็กดรหัสประตูที่เจ้าของห้องพักให้ไว้ xxxxxx ติ๊ด เปิดประตูเข้าไปก็เจอโถง เดินเข้าไปมีลิฟต์อยู่ขวามือ มีปุ่มเดียวใสๆ กดยังไงก็ถูก แต่กดแล้วไม่แน่ใจว่าถูกไหมเพราะ ครึกกกกกกกกก กังกัง ครึกกกกกกกก กังกัง นี่คือสัทพจน์เสียงลิฟต์ค่ะ น่ากลัวมาก ครั้งแรกนี้คุณแก้วก็ไม่รู้ว่าเราจะดึงประตูลิฟต์เมื่อไรดี คือประตูมันมีที่ดึงอะ ไม่รู้ว่าลิฟต์ลงมาถึงหรือยัง ครึกกกกกก กังกัง อะลองดึงดู ดึงไม่ออก ครึกกกกกก กังกัง สักพักเสียงเงียบ น่าจจะถึงละ เปิดเนอะ (ภาพถ่ายจากหน้าห้อง ออกจากลิฟต์แล้วเลี้ยวขวาคือห้อง มองย้อนไปอีกทางคงเป็นเจ้าของป้ายที่แปะในลิฟต์ ความเก๋คือพรมแดงที่ปูประหนึ่งเป็นเวทีอะคาเดมี่แฟนเทเชีย) ลิฟต์ตึกนี้ก็มีขนาดประมาณ 1×0.8 เมตร ป้ายกำกับบอกว่าจุได้ 3 คน โอ๊ย กลัวใจมาก กลัวว่าขึ้นคนเดียวแล้วจะร้อง ถึงชั้นบน ประตูด้านในลิฟต์เลื่อนไปข้างๆ มีประตูอีกบานที่คุณแก้วต้องผละออกไปเอง ประตูนั้นมีป้ายแปะว่า “ตึกนี้ห้าม Airbnb” เอาล้าวววววววว คุณแก้วออกจากลิฟต์หันไปก็เจอห้องพัก ก๊อกๆๆ คุณอลิสาเจ้าของห้องมาเปิด พร้อมแนะนำส่วนต่างๆ ของที่พัก ห้องพักนี้คุณแก้วจองผ่าน Airbnb โดยมีเพื่อนที่ปารีสช่วยดูให้ว่าเป็นย่านที่โอเคปลอดภัยน่าอยู่ไหม ห้องนี้อยู่ติดกับNotre Dame ชนิดที่เห็นวิหารจากห้องพักเลย ซึ่งมาเห็นด้วยตาก็ตรงตามโฆษณาที่คุณอลิสาเขียนไว้ คุณแก้วจะนอนบนโซฟาเบดในห้องรับแขก ห้องรับแขกทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ของคุณแก้ว เราสองคนจะแชร์ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ทั้งสองห้องนั้นอยู่คนละที่ คุณแก้วไม่ชินเหมือนกันนะ อีกส่วนที่แชร์ก็คือห้องครัว ซึ่งคุณแก้วคิดไว้แล้วว่าคงใช้แค่ไปดื่มน้ำ ปิดท้ายด้วยการมอบรหัสไวไฟให้กัน จากนั้นคุณอลิสาก็แยกตัวเข้าห้องนอนหล่อนไป (เห็น Notre…
Biz Class Emirates Airline คุณค่าที่คุณแก้วคู่ควร
มีคนเคยบอกว่าจุดหมายปลายทางเป็นสิ่งสำคัญ แต่สำหรับฉัน คุณแก้ว เรื่องราวระหว่างทางก็สำคัญไม่แพ้กัน ในครั้งนี้ คุณแก้วจึงเลือกเดินทางในชั้นธุรกิจ พอ! ปลอม! เดินทางในชั้นธุรกิจน่ะจริง เรื่องราวระหว่างทางก็สำคัญน่ะก็จริง แต่ที่คุณแก้วเลือกบินบิซอะเพราะสังขาร ใช่ เพราะสังขารและสรีระศาสตร์ของคุณแก้ว ก่อนหน้านี้ที่เคยบินไปที่ต่างๆ ทั้ง โรม โตเกียว โซล เซี่ยงไฮ้ ลอสแองเจลิส และนิวยอร์ก คุณแก้วก็บินอีโค่ทั้งนั้น ไม่เคยจะคิดเลือกบิซเลย จนกระทั่งการไปนิวยอร์กรอบหลังสุดเมื่อปีใหม่ 2017 คุณแก้วก็ซื้อตั๋วอีโค่เหมือนเดิม ก่อนออกเดินทางก็มีอีเมลจากสายการบินส่งมาว่านี่ๆ มิสแกล๊ส ไอมีโปรโมชั่นอัพเกรดเป็นบิซนะ ยูสนไหม โนค่ะ คุณแก้วโนแคร์โนสน นั่งอีโค่ไป ซึ่งแบบ โอ๊ย ในวัยเลยสามสิบยังแจ๋วนี้ การนั่งเครื่องบินเป็นเวลาเกือบวัน แบบมีคนข้างกายที่ไม่ใช่ผัว ตัวก็ล้นมาเบียด ไม่สิ ตัวคุณแก้วนี่แหละที่ล้นเบาะไปเบียดเขา เข่าก็ต้องคอยยันไม่ให้อีผู้โดยด้านหน้าเอนเบาะลงเยอะ แถมยังต้องหันไปส่งสายตาอาฆาตกับอีผู้โดยเด็กที่กระทุ้งหลังตลอดอีก พอ พอกันที ขากลับถ้ามีอีเมลโปรมาอีก จะอัพเกรด และก็มีอีเมลโปรโมชั่นมา แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไปร่วมเดือนในอเมริกา คุณแก้วก็ลืมความเจ็บช้ำใจนั้นเสียสิ้นเลยไม่ซื้อ และแน่นอนว่าก็ทุกข์ทรมานตลอดเส้นทางการบินกับกรุงเทพ คุณแก้วจึงขออธิษฐานใจวาจา ตั้งชื่อลูกของแม่ว่าดาว โอ๊ยยยยย ตั้งใจไว้เลยว่าทริปนิวยอร์กครั้งต่อไปในปี…
พิมาลา มุลิลา เมื่อผัวเลว เธอจึงสู้…ในแบบของตน
นั่งเขียนบทความนี้กลางเดือนกันยายน 2560 ช่วงที่กระแสละคร “เพลิงบุญ” มาจริงๆ คอละครพูดกันถ้วนทั่ว คอไม่ละครหลายคนก็ดู หรือแม้ไม่ดูก็ต้องรับรู้ถึงการมีอยู่ของ “ใจเริง” ไม่มากก็น้อย กระแสที่ว่านั้นมีทั้งด้านชมที่ว่าละครสนุก เผ็ด มันส์ และด้านติงว่านางเอกอดทนจัง พระเอกก็แสนเลวแต่เดี๋ยวสุดท้ายก็ได้รับการให้อภัย นี่หรือละครไทยในยุค 4.0 “พิมาลา” หรือ “พิม” นางเอกของเรื่องถูกพูดถึงเรื่อยๆ ในเรื่องความอดทนที่มากเกินไป ความใจเย็นที่ดูเหมือนโง่ หรือแม้แต่การต่อสู้ ที่ถึงขนาดลุกขึ้นมาประกาศว่า “พิมที่แสนดียังอยู่ แต่พิมที่โง่ได้ตายไปแล้ว” ไว้ แต่ต่อมาก็ไม่เห็นทำอะไรนอกจากรอผัวกลับมาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ จะหย่าก็ไม่เด็ดขาด จนบางคนตั้งคำถามว่า เป็นไปได้ไหมที่จะมีละครที่ผู้หญิงลุกขึ้นสู้บ้าง เมื่อเจอผู้ชายโดยเฉพาะที่ได้ตำแหน่งเป็นสามีหรือผัว แล้วเลว นอกใจ มีชู้ ฝ่ายหญิงจะเข้มแข็ง มีวุฒิภาวะมากพอที่จะคิดเลือกทางดำเนินชีวิตแบบที่มนุษย์ฉลาดๆ เขาพึงกระทำกัน เป็นไปได้ไหม ย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนี้ “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจฟรุ้งฟริ้ง” ออกอากาศ ว่าด้วยเรื่องของ “มุลิลา” หรือ “มู่ลี่” ผู้หญิงที่จับได้ว่าผัวตนนอกใจ เธอตัดสินใจย้ายออกจากบ้าน เอาลูกมาเลี้ยงเองเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หางานทำ พยายามจัดสรรชีวิตให้ลงตัวระหว่างการเอาใจใส่ดูแลลูก กับการต่อสู้ในชีวิตการทำงาน และหย่าในที่สุด ปกติเวลาพูดถึงเรื่องความรัก…
ถูกและดี ตั๋วละครแบบนี้มีที่ Broadway นะ
จริงๆ แล้วเป็นคนเฉยๆ (ปนมองบนนิดๆ) กับบทความแนว เที่ยวอย่างไรใช้เงินน้อยที่สุด ก็แหม จะไปเที่ยวนะ ไม่ได้แข่งทีวีแชมเปี้ยน ไปให้มีความสุขไม่สนุกกว่าหรอ ทำไมจะต้องไปแบบเขียมๆ จะกินก็ไม่ได้กิน จะนอนก็ไม่ได้นอน (ใครวะคะ เขาก็ได้กินได้นอนกันทั้งนั้นแหละ) พอถึงคราวตัวเองไปบ้าง ไปไหน ไปนิวยอร์ก ไปทำไม ไปดูละครบรอดเวย์ ….. เป้าหมายชัดเจนมาก ว่าแล้วก็เข้าไปสำรวจราคาตั๋วในหน้าเวบ คุณพระ! เรื่องนึงไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญ ถามว่าแพงไหม ราคามันก็ไม่ได้ต่างจากราคาตั๋วละครเวทีบ้านเราหรอกนะ แต่นี่ ไปทีนึงไม่ได้กะจะดูสองเรื่องไง จะดูเป็นสิบ เอาไงดี แล้วฟ้าก็ประทานทางสว่างมาให้ เมื่อน้องที่รักแนะนำให้รู้จักกับเวบ http://www.broadwayforbrokepeople.com แปลเป็นไทยอย่างสวยงามว่า บรอดเวย์สำหรับคนถังแตก อย่าอายค่ะอย่าอาย ด้านได้อายอด ในเวบนี้จะมีรายละเอียดของละครเพลงและละครพูดทั้งหมดที่แสดงอยู่ ณ ปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ ความเก๋คือ จะพ่วงด้วยรายละเอียด “ตั๋วถูก” ตั๋วถูก ที่ว่านี้แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ 1. Rush Ticket ตั๋วนี้จะขายวันต่อวันที่โรงละคร โดยจะเปิดขายตามเวลาที่โรงเปิดทำการคือ 10 โมง…
ชอบมากฉากนี้ : เมื่อกลีบกุหลาบร่วงหมด
ถ้าให้เลือกหนึ่งอย่างที่ Beauty and the Beast 2017 ใส่เพิ่มเข้าไปแล้วประทับใจที่สุดคงเป็นสิ่งนี้ อย่างที่เรารู้กันว่านางฟ้าสาปให้เจ้าชายกลายเป็นอสูร ให้คนในวังกลายเป็นข้าวของเครื่องใช้ มีดอกกุหลาบวิเศษเป็นนาฬิกาจับเวลา ทางที่จะแก้คำสาปคือเจ้าชายต้องรักใครสักคนและต้องได้รับความรักตอบด้วย หากไม่ได้ตามนี้แล้วกลีบกุหลาบกลีบสุดท้ายร่วงลง เจ้าชายจะเป็นอสูรไปตลอด และชาววังก็จะเป็นสิ่งของไปตลอด แต่ในปี 2017 หากแก้คำสาปไม่ได้ ชาววังจะไม่ใช่แค่เป็นสิ่งของพูดได้แบบนี้ แต่ “จะกลายเป็นสิ่งของจริงๆ” ทุกๆ ครั้งที่กลีบกุหลาบร่วง วังจะสะเทือน พังนิดๆ และชาววังทุกคนจะกลายเป็นสิ่งของมากขึ้น เช่น ขาลูมิแอร์กลายเป็นโลหะมากขึ้น บาเบตต์มีขนนกงอกออกมามากขึ้น หนังให้รายละเอียดความสัมพันธ์ของตัวละครสิ่งของเหล่านี้มากขึ้น ทั้งค็อกสเวิร์ธกับลูมิแอร์ ลูมิแอร์กับพลูเมตต์ มิสซิสพอตส์กับชิพ ไปจนคู่ของตู้เสื้อผ้ากับฮาร์พซีคอร์ด…มาดามการ์ดโรบกับมาเอสโตคาเดนซ่า ในช่วงท้ายของหนัง อสูรตาย กลีบท้ายร่วงหล่น ภาพตัดมาที่ลูมิแอร์ประคองพลูเมตต์ไว้ในอ้อมกอด เธอไม่พูดอะไร ปีกของเธอหุบลง ร่างของเธอกลายเป็นไม้ขนไก่ 100% มาดามการ์ดโรบที่เพิ่งเจอกับสามีมาเอสโตคาเดนซ่าในช่วงต่อสู่ที่ผ่านไป กล่าวลาคนรักก่อนจะปิดประตูกลายเป็นตู้เสื้อผ้า มาเอสโตเองก็เหมือนจะพยายามพูดอะไร แป้นคีย์ของฮาร์พซีคอร์ดที่เหลืออยู่ไม่มากขยับขึ้นลงแทนฟันของเขา ก่อนที่จะนิ่งลง มิสซิสพอตส์ตามหาชิพลูกชายของเธอ แต่ยังไม่ทันได้เจอ ดวงตาทั้งสองของเธอข้างกาน้ำก็เลือนหายไป ชิพมาพร้อมจานรอง เขาเองก็กำลังตามหาแม่ โดยปกติชิพจะเคลื่อนที่ลอยไปมากับจานรองแก้ว ในฉากนี้เขาลอยขึ้นสูง จานรองแก้วตกลงพื้นแตกละเอียด ชิพเองก็จะตกลง…
11 ข้อแนะนำในการชมละครเวที
จะไปชมละครเวทีสักเรื่องมันจะต้องรู้อะไรถึง 11 ข้อเชียวหรือ คำตอบคือไม่ต้องรู้เลยสักข้อก็ได้ แต่ถ้ารู้และนำไปปฏิบัติ จะชมละครได้อย่างมีความสุขขึ้น ทันตาเห็น 1. ไปถึงโรงละครก่อนเวลาแสดงอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ถ้าไม่ใช่คอละครเวทีแล้ว น้อยคนที่จะเดินทางไปโรงละครกันบ่อยๆ จนคำนวณเวลาได้แม่นยำ ยิ่งเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ในกรุงเทพมหานครแล้วนั้น ขอแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางชนิดที่ว่า ไปถึงโรงละครให้ได้ก่อนเวลาแสดงอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เช่น ถ้าละครเริ่มทุ่มตรง คิดว่าใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ใช่หกโมงค่อยออกจากบ้าน แต่ให้ออกตั้งแต่ห้าโมงเย็นไปเลย เพราะเป็นที่รู้กันว่าการจราจรบ้านเรานั้นเป็นอะไรที่ถ้าติดขึ้นมาคือถึงขั้นพัง และไม่ใช่พังธรรมดาแต่เป็น พังพินาศ ใครที่ใช้การเดินทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพี่วิน รถไฟฟ้า หรือเดิน ก็อาจจะลดเวลาที่เผื่อลงมาจาก 1 ชั่วโมงเป็นสัก 30 นาที เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ เผื่อไว้ก่อนดีกว่า นอกจากเรื่องของการจราจรแล้ว การเผื่อเวลานี้ยังรวมไปถึง เผื่อหลงทาง เผื่อหาทางเข้าไม่เจอ เผื่อเลยทางเข้าแล้วต้องวนใหม่ เผื่อหาที่จอดรถยาก เผื่อจอดรถเรียบร้อยแต่หาโรงละครไม่เจอ เผื่อต้องไปรับบัตรหน้าโรง เผื่อกินข้าว เผื่อเข้าห้องน้ำ เผื่อ เผื่อ เผื่อ ส่วนถ้าเผื่อขนาดนี้แล้วยังไปไม่ทันจริงๆ ก็ให้คิดเสียว่าแต้มบุญเรามีไม่พอที่จะชมละครในรอบนั้น 2. วางแผนเรื่องการกินอาหาร แต่ละคนควรรู้ตัวเองว่าระบบร่างกายของตนเป็นอย่างไร หิวไม่ได้หิวแล้วจะหงุดหงิด ก็หาอะไรกินให้อิ่มซะ…
งับกระดาษงานปีใหม่ 2017 ณ ไทม์สแควร์ นิวยอร์ก
จะเยือนมหานครนิวยอร์กเป็นครั้งที่สองทั้งที แค่ดูละครคงไม่พิเศษพอ ต้องหากิจกรรมไฮไลท์ และกิจกรรมนั้นได้แก่ กิจกรรมงับกระดาษงานปีใหม่ 2017 ณ ไทม์สแควร์ วู้หู้ววว เอาภาพตอนจบก่อนนะ เหมือนฝันบัณฑิตสกุลมาก กระดาษปลิวเป็นประกายระยิบระยับวับวาว ราวจะกล่าวอวยพรให้ปี 2017 นี้เป็นปีที่เราจะเปล่งประกายเรืองรองสวยงาม 30 ธันวาคม เราก็ไปเดินสำรวจสถานที่ สุดท้ายเลือกว่าเราจะมายืนแถวๆ หน้าดิสนีย์สโตร์ เพราะเห็นลูกบอลชัดเจน (ลูกบอลจะอยู่ตรงยอดตึก “วัน” ที่มีจอโฆษณาโตชิบานำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต) และด้านขวาของเราจะเป็นเวทีการแสดง เลิศ จุดนี้คือเลิศ เริ่มหาข้อมูลตั้งแต่อยู่เมืองไทย พบว่า ต้องไปตั้งแต่บ่าย/ บ่ายสามเต็ม/ ปิดถนน ปิดสถานีรถไฟบริเวณนั้น ควรนั่งรถไฟไปลงทางเหนือแล้วเดินย้อนลงมา/ ไม่มีอาหารหรือน้ำขาย/ ไม่มีห้องน้ำ/ เข้าไปแล้ว ถ้าจะออกมา จะไม่ได้กลับเข้าไปอีก และต่อไปนี้คือการเดินทางของเรา ดาว คือตึกวัน เรานั่งรถไฟสาย BDFM (สายไหนก็ได้ สักสายแหละ จำไม่ได้) มาลงที่สถานี Rokkefeller ที่จุด A เมื่อโผล่ขึ้นมาได้ก็เห็นคุณตำรวจเริ่มตั้งแผงกั้นแล้ว เดินเข้าไปทาง 48st…
SULLY
แม้ว่าจะมีคำตอบตลอดทั้งจากคนอื่นและจากในใจของตัวเองว่า งานที่ทำอยู่ในปัจจุบันนั้นดีแล้วเหมาะสมแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกขึ้นบ้างว่า ชีวิตตอนนี้จะเป็นอย่างไรถ้าตอนนั้นเลือกที่จะเป็น “นักบิน” …………. ไปดู SULLY มา (หนังไม่น่าจะมีอะไรโดนสปอยล์ แต่ก็เตือนไว้เผื่อนะ อาจมีสปอยล์นะยู) เดี๋ยวนี้เวลาดูหนังหรือละคร นอกจากจะดูเอาเรื่องเอารสเอาความสนุกแล้ว ก้องมักดูไปคิดไปว่า เอ๊ะ ถ้าเราต้องแสดงฉากนี้จะทำยังไงนะ หรือ ตอนที่นักแสดงคนนี้เขาแสดงฉากนี้เขาจะรู้สึกยังไงนะ วินาทีแรกที่เห็นพี่ทอม (ขออนุญาตเรียกแบบนี้นะ สนิทกัน ….. หรา) พี่คะ พี่จะ 60 แล้ว แต่พี่ยังเป็นพระเอก ในหนังที่พี่เป็นตัวเอกคนเดียว แล้วพี่ได้ออสการ์มากี่ตัว แล้วแต่ละเรื่องที่พี่เล่นนี่แบบโห แล้วมาเรื่องนี้หน้าพี่แบบนี้แววตาแบบนี้ พี่ใช่คนเดียวกับที่เล่น The Terminal หรือเปล่าวะคะนี่ (The Terminal เป็นผลงานพี่ทอมที่ก้องประทับใจที่สุด) พี่ทอมรับบทเป็นกัปตันซัลลี่ที่นำเครื่องลงจอดฉุกเฉินในแม่น้ำฮัดสันเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้อง ซัลลี่โดนสอบสวน ซึ่งมีคำถามที่ซักถึงความพร้อมที่จะทำการบิน ซัลลี่ตอบว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ผู้ถามก็รับคำตอบไปแบบแกนๆ ถ้ามองถึงซัลลี่ ณ วินาทีนั้น กับบทบาทนักบินก็อาจจะสงสัยแบบนั้นได้ แต่ถ้ามองถึงพี่ทอม ณ วินาทีนั้น กับบทบาทนักแสดง คงไม่มีใครสงสัยถึงความพร้อมที่จะทำการแสดง พี่ทอมทำได้…
ขออย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอแม้จะร้องไห้
สิงหาคม 2559 ก้องได้ไปชมกรีนคอนเสิร์ต 100 เพลงรักที่กลับมาที่พารากอน ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่รวบรวมเพลงที่เราคุ้นหูคุ้นปากคุ้นใจกันมาตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่าร้องตามได้แทบทุกเพลง …… รวมถึงเพลงนี้ ที่แค่อินโทรดังขึ้น ก็รู้ได้ทันที พี่อ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์ มาพร้อมกับเพลง “อย่ายอมแพ้” หากวันนี้ เราล้มลง ยังคงลุกขึ้นได้ใหม่ ถ้ายังคงมีหนทาง ถ้ายังมียิ้มสดใส ก้าวไป อย่าหวั่นไหวหวาดกลัว พร้อมทนทุกข์หมองหม่น ผจญความมืดหมองมัว ไม่กลัว จะฝันถึงวันใหม่ หากวันใดอ่อนแอ ท้อแท้อย่าหวั่นไหว ขอให้ใจไม่สิ้นหวัง ปัญหาแม้จะหนัก ก็คงไม่เกินกำลัง อย่าหยุดยั้งก้าวไป ขออย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอแม้จะร้องไห้ จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกลเกินจริง ยังไม่ทันที่พี่อ้อมจะเริ่มร้องท่อนแรก ก็มีภาพภาพหนึ่งแว้บขึ้นมาในหัวก้อง ภาพในเดือนมกราคม 2550 ณ พารากอนที่เดียวกันนี้ ก้องมาชมคอนเสิร์ต คีตา ซึ่งพี่อ้อมก็ขึ้นร้องเพลงนี้เช่นกัน ตอนนั้นเป็นช่วงปีแรกที่ก้องเรียนจบปริญญาตรีและออกมาทำงาน ออกจากโลกจำลองสู่โลกแห่งความจริง จำได้ว่าร้องไห้ตั้งแต่อินโทรขึ้นจนจบเพลง ร้องตะโกนคู่ไปกับพี่อ้อมจนสุดเสียงตลอดทั้งเพลงทั้งน้ำตา ตัดภาพกลับมาในเดือนสิงหาคม 2559 ก้องฟังเพลงนี้แบบนิ่งขึ้น เข้าใจขึ้น ไม่ได้เข้าใจทุกสิ่งบนโลกนี้หรอก แต่เก้าปีที่ผ่านก็สอนอะไรไม่น้อย ถ้าย้อนเวลากลับได้ อยากไปบอกตัวเองตอนนั้นว่าให้สู้ต่อไป วันที่ดีกว่ารอแกอยู่ คิดอีกที ไม่บอกดีกว่า เดี๋ยวบอกไปนางจะเหลิง…